กระทรวงพาณิชย์ 8 ส.ค.-กระทรวงพาณิชย์ระบุการลดดอกเบี้ยนโยบายของกนง.และแนวโน้มค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลงจะช่วยส่งผลดีต่อการส่งออก
แต่ยังต้องจับตาสงครามการค้าสหรัฐกับจีน
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมมาตรการดูแลไว้แล้ว
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า
กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางจีนทยอยปรับอัตรากลางเงินหยวนตั้งแต่ต้นสัปดาห์
ส่งสัญญาณว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
เริ่มขยายวงกว้างไปสู่สงครามการเงินและส่อเค้ายืดเยื้อไปอีกพักใหญ่
แม้ว่าธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์ปฏิเสธการจัดการค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการส่งออก
และให้เหตุผลว่าค่าเงินหยวนสอดคล้องกับอุปสงค์อุปทานและพื้นฐานของเศรษฐกิจจีน
ทั้งนี้ ค่าเงินหยวนมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ อัตรากลาง
7.0039 หยวนต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงอีกเล็กน้อย
นางสาวพิมพ์ชนก
ชี้ว่าการที่เงินหยวนอ่อนค่าทำให้สินค้าจีนมีราคาถูกลงโดยเปรียบเทียบ
ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถทางการแข่งขันของประเทศคู่แข่งรวมถึงไทย
ในตลาดสหรัฐฯ และตลาดที่สาม อย่างไรก็ตาม
การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวานนี้ (7 ส.ค. ) ทำให้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐและไทย
กลับไปสู่ใน 0.5 โดยประเมินว่าแรงกดดันต่อการแข็งค่าของเงินบาทลดลง
และเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนตัวลงจากขณะนี้ ประกอบกับมาตรการเพื่อเฝ้าระวังเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นที่ออกมาก่อนหน้านี้จะเป็นอีกกลไกหนึ่งเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินให้สอดคล้องกับสภาพปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น
จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและเอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับสู่กรอบเป้าหมาย
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวอีกว่า แนวโน้มค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลง
จะส่งผลกระทบทางตรงให้รายได้จากการส่งออก (ในรูปเงินบาท) ปรับตัวดีขึ้นจากระยะก่อน
และมีผลทางอ้อมสนับสนุนให้สินค้าส่งออกของไทยการแข่งขันได้ดีขึ้น
ส่งผ่านต่อเนื่องไปถึงเศรษฐกิจในประเทศ กระตุ้นภาคการผลิต และเพิ่มการจ้างงานต่อไป
นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะที่เงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมาย
ส่งผลให้ปริมาณเงินเพื่อการหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น
ส่งผลดีต่ออุปสงค์การบริโภคและทำให้เงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้
เมื่อรวมผลกระทบจากทางผลทางด้านรายได้จากการส่งออกที่มากขึ้น
และราคานำเข้าที่สูงขึ้น ชี้ว่าทิศทางเงินเฟ้อน่าจะปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม
ความไม่แน่นอนของข้อพิพาททางการค้า และสถานการณ์อื่นๆ
อาจทำให้ค่าเงินยังมีความผันผวนผู้ส่งออกควรพิจารณาทำประกันความเสี่ยง และจูงใจให้ผู้นำเข้าทำสัญญาระยะยาวเพื่อเป็นหลักประกันการซื้อขายประกอบด้วย
เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ไม่คาดคิด
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมมาตรการดูแลและกระตุ้นการส่งออก
รวมถึงการค้าชายแดน
โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีสัดส่วนต่อการส่งออกค่อนข้างสูง
เพื่อกระจายความเสี่ยงตลาดส่งออก และลดการพึ่งพาตลาดเดิม อีกทั้งการลดอุปสรรคทางการค้าก็เป็นอีกมาตรการเร่งด่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจของภาคเอกชน โดยในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนในวันที่
14 สิงหาคมนี้จะได้หารือในรายละเอียดและกำหนดแนวทางเพื่อขับเคลื่อน สู่ภาคปฏิบัติต่อไป–สำนักข่าวไทย