ลำปาง 30 ก.ค.- เรื่องของโรคเนื้อเน่า โดยเฉพาะที่ จ.ลำปาง พบผู้ป่วยโรคเนื้อเน่าในพื้นที่แล้วกว่า 120 ราย โดยแพทย์ระบุว่าโรคนี้มีมานานหลายปีแล้ว ไม่ไช่โรคใหม่
จากกรณีชายวัย 50 ปี ชาวบ้านต้นมื่น อ.งาว จ.ลำปาง ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่าที่เท้าซ้ายด้านหลัง โดยผู้ป่วยรายนี้ได้ไปตักมูลวัว ซึ่งตอนนั้นสวมใส่เพียงรองเท้าแตะฟองน้ำเท่านั้น เมื่อกลับมาบ้านเกิดอาการคันบริเวณเท้าและมีเม็ดเล็กๆ 2 เม็ดคล้ายสิว และคัน เจ้าตัวเลยเกา ทำให้เกิดมีอาการบวมแดง เป็นแผลอักเสบมีน้ำหนองจนลุกลามติดเชื้อ และเกิดเนื้อเน่า ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภองาว ก่อนถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลลำปาง เคราะห์ดีที่มาพบหมอได้ทันเวลา ไม่ต้องถูกตัดขาทิ้ง
นพ.วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ผู้ป่วยมีบาดแผลบริเวณเท้าด้านซ้าย ยาวจนมาถึงข้อเท้าด้านบน ความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร โดยคณะแพทย์ผ่าตัดเนื้อที่เน่าออก ทำความสะอาดและควบคุมการติดเชื้อ ขณะนี้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นตามลำดับ และได้ย้ายผู้ป่วยกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภองาวแล้ว
นพ.วรินทร์เทพ ยังบอกว่า อย่าตื่นตระหนกกับโรคดังกล่าว เพราะว่าโรคนี้มีมานานหลายปีแล้ว ไม่ไช่โรคใหม่ สำหรับสถิติในปีนี้ของ จ.ลำปาง พบผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคเนื้อเน่า มีทั้งอาการรุนแรงและไม่รุนแรง รวม 122 ราย พร้อมฝากเตือนประชาชนทั่วไป รวมไปถึงเกษตรกร ชาวสวนต่างๆ ขอให้รักษาความสะอาด โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นฤดูฝน หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง อาจไปเดินย่ำน้ำที่สกปรก ควรสวมรองเท้าบูท หรือถุงพลาสติก หรือสวมใส่วัสดุที่กันน้ำได้ เพื่อป้องกันเท้าไปสัมผัสเชื้อโรคโดยตรง และหากสัมผัสพื้นดินแล้ว ควรรีบล้างเท้าให้สะอาด เช็ดเท้าให้แห้ง สำหรับเกษตรกรที่ต้องไปสัมผัสมูลสัตว์และสิ่งสกปรก ควรล้างมือล้างเท้า อาบน้ำชำระร่างกายทันที หลังเสร็จจากการทำงาน.-สำนักข่าวไทย