fbpx

“วัฒนา” ยื่นร้องศาลฎีกาฯ ไต่สวนกลับ ป.ป.ช.

พรรคเพื่อไทย 13 ก.ค.-“วัฒนา” เผยยื่นร้องศาลฎีกาฯ ไต่สวนกลับ ป.ป.ช.หลังบิดเบือนตัดแต่งคำให้การคดีบ้านเอื้ออาทร


นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีโครงการบ้านเอื้ออาทร ว่า ตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้ศาลฯ ไต่สวนพฤติกรรมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีการแทรกคำให้การเพิ่มเติมถึง 8 หน้าโดยที่ไม่มีลายเซ็นกำกับ รวมทั้งตัดแต่งบิดเบือนคำให้การของพยานปากสำคัญในคดีบ้านเอื้ออาทรที่ให้การเป็นคุณกับฝ่ายจำเลย เพื่อพยายามชี้ให้ศาลเห็นว่าตนเรียกรับผลประโยชน์ ใช้อำนาจตามอำเภอใจและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 

นายวัฒนา กล่าวว่า ทั้งนี้ ข้อความที่หายไปดังกล่าวเป็นข้อสำคัญแห่งคดีทั้งสิ้น เช่น ที่กล่าวหาว่าตนเรียกประชุมผู้ประกอบการและเรียกเงินต่อที่ประชุมนั้น ถูกตอบโดยคำให้การที่ว่า การประชุมดังกล่าวคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เป็นผู้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ มีเจ้าหน้าที่ กคช.มาร่วมประชุมและบันทึกรายงานการประชุม ไม่ใช่ตนเรียกประชุมเองโดยพลการ จึงไม่มีผู้ใดในโลกกล้าเรียกเงินต่อหน้าที่ประชุม ส่วนพยานที่ให้การแบบนั้นเพราะตามใจผู้สอบสวนและไม่ต้องการตกเป็นผู้ต้องหา เป็นต้น


นายวัฒนา กล่าวอีกว่า การกระทำของ ป.ป.ช. ไม่มีการแสดงหาข้อเท็จจริง แต่พยายามทำทุกทางเพื่อเอาผิด เพื่อต้องการให้ตนได้รับโทษ ทั้งยังมีลักษณะตัดทอนข้อความในเอกสารราชการอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 และ 265 ในขณะที่ตนเคยร้องขอความเป็นธรรม เพียงขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินคดี ป.ป.ช.ได้ตอบหนังสือกลับว่า ป.ป.ช. ไม่มีกรณีที่ต้องพิจารณาให้ความเป็นธรรมและชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงตามที่ขอ ทั้งนี้ ศาลสั่งให้อัยการทำคำคัดค้านมายื่นศาลฯ ในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ หากอัยการสามารถยื่นศาลฯ ได้ทัน คาดว่าศาลฯ จะมีคำสั่งเริ่มไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553