คาดข้อพิพาทการค้าจะเป็นเรื่องใหญ่ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ข้อพิพาทการค้าจะเป็นประเด็นใหญ่ในการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนที่กรุงเทพฯ วันที่ 22-23 มิถุนายนนี้ แม้เรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้และปัญหาชาวโรฮิงญาน่าจะเป็นประเด็นในการประชุมด้วยก็ตาม 


นายดรู ทอมป์สัน นักวิจัยบัณฑิตวิทยาลัยนโยบายสาธารณะลีกวนยูในสิงคโปร์กล่าวว่า อาเซียนคือกลุ่มที่ได้ประโยชน์มากที่สุดกลุ่มหนึ่งจากข้อพิพาทการค้าจีนกับสหรัฐ เพราะผู้ผลิตรายใหญ่บางเจ้าจะหนีจากจีนมายังประเทศในอาเซียนที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ เช่น ไฮเออร์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนที่เริ่มย้ายฐานการผลิตมาเวียดนาม ไทย หรืออินโดนีเซียที่มีภาษีต่ำแล้ว ขณะเดียวกันข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐที่ยืดเยื้อทำให้จีนหาทางลงนามข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมทั่วอาเซียน 

ทอมป์สันมองว่า จีนอาจใช้ความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจแบบครอบคลุมในระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ฟ (RCEP) เป็นช่องทางเข้าถึงตลาดที่มีประชากรรวมกันถึงครึ่งหนึ่งของโลก เพราะประกอบด้วย 10 ชาติอาเซียน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แต่อินเดียซึ่งต้องการรักษาตลาดของตนเองกำลังกดดันให้อาร์เซ็ฟรับรองว่าจะไม่บังคับให้อินเดียต้องเปิดตลาดรับสินค้าปลอดภาษีจากจีนที่ผ่านมาทางอาเซียน คาดว่าการเจรจาอาร์เซ็ฟในวันเสาร์นี้ นอกรอบการประชุมอาเซียนจะไม่มีความคืบหน้ามากนัก ด้านนายเฟร็ด บูร์ก บริษัทกฎหมายในเวียดนามเตือนว่า หากสงครามการค้าจีน-สหรัฐยืดเยื้อจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และจะเป็นข่าวร้ายกับทุกคน ประโยชน์ที่อาเซียนได้ในระยะสั้นจะหายไปเพราะอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง 


ส่วนข้อพิพาทเรื่องการอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้น่าจะเป็นประเด็นในการประชุมเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเรือประมงฟิลิปปินส์ชนกับเรือจีนเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์โทษกัปตันเรือจีนว่าเจตนาชนแล้วหนี ปล่อยให้ลูกเรือประมงฟิลิปปินส์ลอยคอกลางทะเล แต่จีนแย้งว่ากัปตันพยายามจะช่วยแล้วแต่ถูกเรือฟิลิปปินส์ล้อมจึงหนีไปเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เมียนมาน่าจะถูกกดดันเรื่องกระบวนการส่งกลับชาวโรฮิงญาที่ชะงักงัน ปัจจุบันมีชาวโรฮิงญาจำนวนมากอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยบังกลาเทศ หลังจากกองทัพเมียนมายกกำลังขึ้นในไปรัฐยะไข่ ตั้งแต่กลางปี 2560 ทำให้ชาวโรฮิงญาหนีไปบังกลาเทศกว่า 740,000 คน.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก