นนทบุรี 19 ส.ค. – กระทรวงพาณิชย์เปิดประมูลข้าวล็อตใหม่อีก 1 ล้านตัน เป็นข้าวดีเพื่อการบริโภคและเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม เพื่อเร่งระบายในฤดูกาลผลิตใหม่ใกล้ออกสู่ตลาด พร้อมยอมรับแผนระบายข้าวในสตอกจะไม่เป็นไปตามแผนหมดภายในปี 2560 หลังสถานการณ์ข้าวตลาดโลกยังมีความผันผวนและเงินบาทแข็งค่าดันราคาข้าวไทยสูงขึ้นแข่งขันยาก
ผู้ประกอบการค้าข้าวและผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมยังคงให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังคำชี้แจงเงื่อนไขการประมูลข้าวสารในสตอกรัฐ ซึ่งเปิดประมูลปริมาณรวม 1 ล้านตัน แบ่งเป็นการประมูลทั่วไป ครั้งที่ 5 ปี 2559 หรือข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภค ปริมาณ 753,000 ตัน เป็นข้าวขาว 5% ทั้งหมดใน 28 คลัง ส่วนอีก 255,000 ตัน ประมูลเป็นการทั่วไป และเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 2 ของปี 2559 เป็นข้าวผิดไปจากมาตรฐาน และข้าวผิดชนิด 4 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวเอวัน ปลายข้าวเอวันเลิศ และปลายข้าวปทุมธานี ใน 22 คลัง ซึ่งจะได้เปิดให้ผู้สนใจ เข้าดูสภาพข้าวในคลังได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2559
ทั้งนี้ การประมูลข้าวทั้ง 2 แบบ จะเปิดให้ยื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติวันที่ 25 สิงหาคมนี้ แต่การประมูลข้าวเพื่อการบริโภคจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติวันที่ 29 สิงหาคมและสามารถยื่นซองเสนอราคาได้ทันที ส่วนการประมูลทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรมจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติวันที่ 30 สิงหาคม และสามารถยื่นซองเสนอราคาได้ทันที
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า รายละเอียดคุณสมบัติและเงื่อนไขการประมูลของประกาศทั้ง 2 ฉบับ ยังคงหลักการเดิม แต่ปริมาณที่เปิดประมูลน้อยลงมากจากครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากข้าวนาปีฤดูกาลผลิตใหม่ใกล้ออกสู่ตลาดแล้ว แต่ภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศยังมีความต้องการปลายข้าว เพื่อทดแทนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการนำข้าวขาวและปลายข้าวในสตอกของรัฐออกมาเปิดประมูล ส่วนจะสามารถระบายได้ปริมาณมากหรือน้อย ะขึ้นอยู่กับราคาเสนอซื้อจะต้องผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ หรือ floor price เท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อตลาดข้าวในประเทศ
ขณะที่การพิจารณาเปิดประมูลครั้งต่อไปนั้น จะต้องดูสถานการณ์ตลาดเป็นหลัก ซึ่งอาจจะสามารถเปิดระบายในช่วงที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ เริ่มทยอยออกสู่ตลาดได้โดยที่ไม่กระทบกับราคา เนื่องจากผลผลิตข้าวของโลกที่ยังไม่แน่นอน และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา โดยเฉพาะปัญหาจากภัยธรรมชาติและความต้องการของตลาดที่ยังมีอยู่มาก แต่ได้มีการติดตามสถานการณ์เป็นรายวัน เพื่อบริหารจัดการข้าวในสตอกให้หมดตามแผน แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถระบายข้าวในสตอกที่เหลือ 9.1 ล้านตันให้หมดภายในปี 2560 หากปริมาณข้าวฤดูกาลใหม่ออกมาก รวมทั้งความผันผวนของความต้องการข้าวโลกที่ยังไม่ชัดเจน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่เงินบาทแข็งค่าขณะนี้ยอมรับว่า เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกข้าวไทย เพราะการแข็งค่าทุก 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะกระทบต่อราคาข้าวไทยให้สูงขึ้นตันละ 10 เหรียญสหรัฐ ทำให้ไทยแข่งขันยากขึ้นจนประเทศผู้นำเข้าอาจจะชะลอ หรือลดปริมาณการซื้อข้าว รวมทั้งจะมีผลต่อการเข้าร่วมประมูลข้าวในฟิลิปปินส์ที่เปิดเป็นการเฉพาะให้ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งหากเทียบราคาข้าวขาว 25% ของไทยแพงที่สุดอยู่ที่ 388 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่เวียดนามอยู่ที่ 336 เหรียญสหรัฐต่อตัน.-สำนักข่าวไทย