มอสโก 7 มิ.ย.- นักวิเคราะห์คาดว่า จีนและรัสเซียจะแสดงความเป็นแนวร่วมที่มีปัญหากับสหรัฐร่วมกันในการประชุมเศรษฐกิจสากลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กวันที่ 8 มิถุนายนนี้
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเดินทางถึงกรุงมอสโกเมื่อวันพุธเพื่อเยือนเป็นเวลาสามวัน เขายกย่องประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียว่าเป็นมิตรที่ดีที่สุดระหว่างการพบปะกันอย่างอบอุ่นที่ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย และจะปิดท้ายการเยือนด้วยการขึ้นเวทีการประชุมประจำปีของที่ประชุมเศรษฐกิจสากลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นครั้งแรก รัฐบาลจีนแถลงก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีสีจะแสดงวิสัยทัศน์ของจีนเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความร่วมมือแบบพหุภาคี รัสเซียจัดการประชุมนี้มาตั้งแต่ปี 2540 หวังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ นักวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษามาโครแอดไวซอรีมองว่า การประชุมปีนี้แสดงให้เห็นชัดมากว่าโลกได้แบ่งเป็นสองขั้วจริง ๆ เพราะขณะที่ประธานาธิบดีปูตินต้อนรับประธานาธิบดีสีที่กรุงมอสโก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐก็กำลังร่วมงานเลี้ยงพระสุธารสชากับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษที่กรุงลอนดอน
ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่า จีนเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของรัสเซีย การค้าทวิภาคีเมื่อปีก่อนขยายตัวร้อยละ 25 ทำสถิติสูงสุดที่ 108,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.38 ล้านล้านบาท) อย่างไรก็ดี จีนยังไม่ใช่ผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย นักเศรษฐศาสตร์ของเรอเนสซองซ์แคปิตัลชี้ว่า จีนยังไม่รีบร้อนเพราะต้องการความมั่นใจในระยะยาว คาดว่าจีนจะลงทุนใหญ่ในรัสเซียในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าหรืออาจเร็วกว่านั้น เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทสำคัญในโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ในศตวรรษที่ 21 (Belt and Road) ที่เป็นความริเริ่มของประธานาธิบดีสี โครงการความร่วมมือที่สำคัญคือ การวางท่อส่งก๊าซไซบีเรียนำก๊าซจากรัสเซียไปจีนที่จะเริ่มเดินเครื่องได้ในปีนี้ อย่างไรก็ดี สถาบันการเมืองระหว่างประเทศศึกษาในอิตาลีมองว่า จีนและรัสเซียเทียบกันไม่ได้ในหลายด้าน ที่เห็นชัดที่สุดคือเศรษฐกิจ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของรัสเซียพอ ๆ กับมณฑลกวางตุ้งของจีนเท่านั้น ขณะที่งบกลาโหมของรัสเซียมีเพียงหนึ่งในสามของจีน จึงได้ชัดว่าใครถือไพ่เหนือกว่าในความสัมพันธ์นี้.- สำนักข่าวไทย