นครนายก 31 พ.ค.- คดีหญิงชาวเมียนมาแจ้งความไหทองคำฝังดินหาย ตำรวจองครักษ์สอบสวนแม่ผู้เสียหาย พบพิรุธ จึงออกอุบายให้สาบานต่อหน้าพระ ด้วยความกลัวเลยสารภาพ สร้างเรื่องโจรขโมยทองที่ฝังไว้ใต้บ้าน เป็นคนนำทองที่ลูกสาวฝากไว้ไปขายเอง
จากกรณีที่มีหญิงชาวเมียนมาร้องเรียนถูกคนร้ายขโมยทองคำที่ฝังไว้ใต้บ้านเช่า อ.องครักษ์ จ.นครนายก เจ้าตัวเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุฝันร้ายว่าจะมีคนมาขุดขโมยทองไป และปรากฏว่าวันที่ 27 พฤษภาคม คนร้ายขุดเอาไปจริง ซึ่งพบมีดและรองเท้าแตะของคนร้ายในที่เกิดเหตุ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.องครักษ์ เรียกน.ส.เชอรี่ ผู้เสียหาย พร้อมมารดาชื่อ นางแมลง และคนภายในบ้านมาสอบปากคำอีกครั้ง โดยขณะทำการสอบสวนนางแมลงได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่วกไปวนมาเกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ขุดหลุมว่าคนร้ายใช้จอบขุด แต่เจ้าหน้าตำรวจที่ไม่เชื่อ เนื่องจากหลุมนั้นอยู่ใต้คานบ้าน และจอบไม่สามารถที่จะยกขุดเข้าไปใต้คานบ้านได้ จึงออกอุบายให้นางแมลงสาบานต่อหน้าพระในห้องสืบสวน แต่ด้วยความกลัวจึงยอมรับสารภาพว่า ตนเอง(นางแมลง) เป็นคนนำทองไปขายเอง ที่อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2 บาท, ขายที่ย่านคลอง 3 จ.ปทุมธานี 3 บาท และนำไปขายที่ประเทศเมียนมาอีก 3 บาท เงินที่ได้นำส่งไปให้สามีรักษาตัว และอีกส่วนหนึ่งให้ลูกสาวนำจ่ายค่าพาสปอร์ตเป็นจำนวนหลายหมื่นบาท
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.องครักษ์ ได้พานางแมลงไปตามหาหลักฐาน 3 จุด เริ่มจากจุดที่นำตั๋วจำนำไปฝังดินไว้บริเวณหลังโรงอาหารของวิทยาลัยแห่งหนึ่งของ อ.องครักษ์ จุดถัดมาเป็นจุดที่นำวัตถุพยานประกอบด้วยรองเท้าและมีดไปทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ และจุดสุดท้ายเป็นห้องนอนของนางแมลงซึ่งเก็บตั๋วจำนำไว้อีกส่วนหนึ่ง จากนั้นควบคุมตัวนางแมลงไปฝากขังที่สภ.องครักษ์
สำหรับทองทั้งหมดเป็นของลูกสาวชื่อ น.ส.เชอรี่ ที่ทำงานมาตั้งแต่อายุ 13 ปัจจุบันอายุ 30 ปี ซึ่งตลอดเวลาได้ออมเงินและซื้อทองฝากนางแมลงผู้เป็นแม่ไว้.-สำนักข่าวไทย