สหรัฐ 20 ส.ค.-อีกไม่ถึง 3 เดือนก็จะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว ขณะนี้หันไปดูการสำรวจความนิยมสำนักไหน ก็พบว่า นางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกันมากขึ้นๆ นายทรัมป์ ไม่สามารถหยุดยั้งกระแสลบต่อตัวเขา ที่ลุกลามมาจากนโยบายสุดขั้วหลายเรื่อง จนเห็นได้ว่าเขาพยายามปรับเปลี่ยนทั้งคำพูดคำจาที่ดูจะอ่อนโยนลง และปรับทัพในทีมหาเสียงของเขา ล่าสุด ยังได้ร้องขอแรงหนุนจากคนผิวดำ
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เดินทางไปหาเสียงที่รัฐลุยเซียนา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวผิวดำ จากที่ผ่านมาเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับประชากรกลุ่มนี้มากนัก และขณะนี้พื้นที่ทางใต้นี้กำลังเผชิญกับภัยน้ำท่วมอย่างหนัก เป็นโอกาสที่เขาจะได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย นายทรัมป์ พยายามอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่จะขอคะแนนเสียงและสร้างความนิยมในหมู่ประชากรผิวดำ เพราะผลสำรวจชี้ว่า มีคนผิวดำเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่จะลงคะแนนเสียงให้เขา ที่ผ่านมาเขายังได้ผูกมิตรกับกลุ่มคนที่เหยียดผิว มีการหาเสียง ที่ใช้วาทกรรมดูหมิ่นเชื้อชาติบ่อยครั้ง
ส่วนผลสำรวจความนิยมโดยรวมนั้น นายทรัมป์ ก็มีคะแนนลดต่ำ ถูกนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ทิ้งห่างมากขึ้น จนน่าจะเป็นเหตุผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมาเขาตัดสินใจเพิ่มตัวผู้บริหารการหาเสียง จากเดิมที่มีนาย พอล มานาฟอร์ต ลอบบี้ยิสต์ผู้คร่ำหวอด เป็นผู้จัดการหลักคนเดียว เขาได้นำนักประชาสัมพันธ์มาเสริมทัพอีก 2 คน ผ่านมาไม่กี่วันนายมานาฟอร์ต ก็ประกาศลาออก หลังทำงานกับนายทรัมป์มาได้ 3 เดือน
เรื่องไม่ได้หยุดอยู่เท่านี้ บานปลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ เมื่อพบว่า นายมานาฟอร์ต เคยทำโครงการลับให้รัฐบาลยูเครนสมัยนายวิคเตอร์ ยานูโควิช ซึ่งเป็นผู้ที่ฝักใฝ่รัสเซีย สำนักงานต่อต้านคอร์รัปชั่นของยูเครนเผยว่า รัฐบาลสมัยนั้นจ่ายเงิน 12.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านมือนายมานาฟอร์ต เพื่อให้ล็อบบี้สื่อ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้รัฐบาลยูเครนในสายตาชาวอเมริกันผ่านสื่อโดยรายงานบอกด้วยว่า พยายามล็อบบี้ให้มีการเสนอข่าวด้านดีของยูเครนผ่านสื่อหลักๆ ของสหรัฐ ทั้งนิวยอร์กไทมส์ วอลล์สตรีท เจอร์นัล และเอพี.-สำนักข่าวไทย