กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – งบไทยนิยมยั่งยืนหนุนสหกรณ์เขาคิชฌกูฏ สร้างโรงงานทุเรียนแช่แข็ง เปิดตลาดจีนผลตอบรับฉลุย คาดปีหน้าขยายตลาดเพิ่ม
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด จังหวัดจันทบุรี เป็นหนึ่งในสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลไม้ เพื่อกระจายสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ละปีรวบรวมผลผลิตได้ประมาณ 5,800 ตัน เฉพาะทุเรียนประมาณ 1,000 ตัน ซึ่งปีที่ผ่านมา สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการไทยนิยมยั่งยืนกว่า 29 ล้านบาท และสหกรณ์สมทบเพิ่มอีก 12 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารห้องเย็น พร้อมอุปกรณ์แปรรูปผลไม้ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่กลางปี 2561 เสร็จสมบูรณ์ทันใช้ในฤดูกาลผลผลิตปีนี้
สำหรับอาคารห้องเย็นนี้เริ่มใช้ประโยชน์ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยสหกรณ์รับซื้อผลทุเรียนสดแต่ตกไซส์มีตำหนิลูกไม่สวยนำมาแปรรูปแกะเนื้อผลิตเป็นทุเรียนแช่แข็งและเพิ่มมูลค่า โดยกระบวนการ Freeze dry ก่อนส่งจำหน่ายตลาดในประเทศจีน เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคจีนเปลี่ยนไป จากเดิมเคยซื้อทั้งผลเปลี่ยนเป็นการซื้อทุเรียนแบบแกะเนื้อบรรจุกล่องหรือถาดขนาด 1-2 พู พอดีสำหรับจำนวนสมาชิกครอบครัว ทำให้สหกรณ์มองเห็นโอกาสขยายตลาดทุเรียน ทั้งนี้ โรงงานห้องเย็นของสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด สามารถผลิตทุเรียนแช่แข็งได้ประมาณ 2,000 ตันต่อปี
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ห้องเย็นในจันทบุรีมีหลายแห่งแต่เป็นของเอกชน แต่ละปีรวบรวมผลไม้ช่วงที่ออกมากที่สุดประมาณ 4,500 ตัน เมื่อสหกรณ์ได้รับงบประมาณจัดสร้างห้องเย็น แบ่งตลาดมาส่วนหนึ่ง เกษตรกรจึงมีทางเลือกนำผลผลิตมาขายให้กับสหกรณ์และส่งผลให้ราคาทุเรียนปรับตัวสูงขึ้น จากเดิมหลายปีที่ผ่านมาทุเรียนตกไซส์ราคา 30 – 40 บาทต่อกิโลกรัม ปีที่แล้วขยับเป็น 45 – 60 บาทต่อกิโลกรัม และปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 บาทต่อกิโลกรัม แสดงให้เห็นว่าการที่สหกรณ์เข้าไปเป็นตัวกลางรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรนั้น ส่งผลต่อการรักษาเสถียรภาพราคาผลไม้ และยังช่วยรัฐบาลประหยัดงบประมาณที่จะต้องนำไปใช้แทรกแซงราคาผลไม้ให้กับเกษตรกรปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่สหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการผลผลิตในพื้นที่ โดยการพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต เริ่มตั้งแต่การส่งเสริมการรวมกลุ่มสมาชิกให้มีการวางแผนการผลิต มีการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้ว ยังทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้ สหกรณ์ยังได้เชื่อมโยงกับภาคเอกชนกระจายผลไม้จากแหล่งผลิตไปสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ สามารถขายผลผลิตได้ราคาและมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ
ด้านนายศานต์ นาควิบูลย์วงศ์ ผู้จัดการโรงงานห้องเย็น บริษัท ริชฟิล เฟรช ฟรุ้ต จำกัด บริษัทส่งออกซึ่งเป็นคู่ค้ากับสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้รับซื้อทุเรียนแช่แข็งจากสหกรณ์ และส่งเป็นวัตถุดิบให้ลูกค้าที่ประเทศจีนนำไปจัดแต่งบรรจุลงถาดและใส่แบรนด์สินค้าของตัวเอง ก่อนส่งไปวางขายในห้างใหญ่ ๆ 4-5 แห่งของจีน ซึ่งราคาทุเรียนจากประเทศไทยเมื่อนำไปวางขายในห้างของจีนจะมีมูลค่าสูงขึ้นหลายเท่าตัว คนจีนส่วนใหญ่นิยมรับประทานทุเรียนสุกงอม ซึ่งทุเรียนแกะเนื้อที่ส่งไปประเทศจีนจะผ่านการตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัยและต้องมีใบรับรองมาตรฐาน GMP ซึ่งการผลิตผลไม้แบบ fresh-cut จะต้องทำเชิงคุณภาพ แต่จะได้ผลตอบแทนที่มีมูลค่าสูงกว่า นอกจากตลาดผลไม้ในประเทศจีนแล้ว ทางบริษัทยังส่งทุเรียนไปเปิดตลาดที่อินโดนีเซีย และส่งแบบทุเรียนแช่แข็งทั้งลูกไปจำหน่ายที่เกาหลีด้วย แม้ว่าปีนี้จะเป็นการทดลองตลาดทุเรียนแช่แข็งเป็นปีแรก แต่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในต่างประเทศเป็นอย่างดี และมีแนวโน้มว่าจะสามารถขยายปริมาณการส่งออกได้เพิ่มขึ้นปีต่อ ๆ ไป.-สำนักข่าวไทย