กทม. 7 พ.ค.-เด้งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปมรีดเงิน 5,000 บาท รับทำคดี รู้ผลใน 7 วัน เจ้าตัวปัดเรียกเงิน ยันทำคดีตรงไปตรงมา
พันตำรวจเอกสิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เรียกพันตำรวจเอกจักรภัณฑ์ จันทรอุทัย ผู้กำกับการ สน.โชคชัย และพันตำรวจโทประทวน แมลงทับ สารวัตรสอบสวนฯ เข้าพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริง กรณีที่นายไพวัลย์ แซ่ลี้ ได้ฆ่าตัวตายและทิ้งจดหมายไว้ในที่เกิดเหตุ อ้างว่าได้ไปแจ้งความคดียักยอกทรัพย์ แต่พันตำรวจโทประทวนได้เรียกรับเงิน แม้คดีผ่านมานานเป็นปี แต่ไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งนายไพวัลย์ได้ก่อเหตุฆ่าตัวตาย
รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ยืนยันว่าได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดีใหม่ พร้อมดำเนินการทางวินัยต่อพันตำรวจโทประทวน หลังพบความบกพร่องจากการทำคดีล่าช้า และไม่แจ้งความคืบหน้าต่อผู้เสียหายทราบ เพราะพบว่ามีการจับกุมคนร้ายได้ 1 คน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนี้มีคำสั่งให้พันตำรวจโทประทวน ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาภายใน 7 วัน
ด้านผู้กำกับการ สน.โชคชัย ยืนยันพันตำรวจโทประทวน ไม่เคยมีประวัติเสียหาย ไม่เคยถูกร้องเรียนหรือพฤติกรรมเรียกรับส่วย แต่เป็นคนทำงานช้าและพูดจาไม่เก่ง ซึ่งพันตำรวจโทประทวน ยืนยันว่าไม่ได้รับสินบน ขณะที่พันตำรวจโทประทวน ยืนยันว่าไม่ได้รับสินบน และยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ เพราะทั้งชีวิตไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน
สำหรับนายไพวัลย์ อายุ 42 ปี ชาวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้ก่อเหตุรมควันฆ่าตัวตายในห้องพักย่านกิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา และพบว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน ที่สำคัญได้ทิ้งจดหมายลาตายบอกว่าได้นำรถกระบะไปจำนำเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2561 หลังจากไม่สามารถไถ่ถอนมาได้ จึงแจ้งตำรวจ สน.โชคชัย ดำเนินคดี ซึ่งในจดหมายอ้างว่า “พันตำรวจโทประทวน เรียกเงิน 3,000 บาท กับค่าสืบ 2,000 บาท” และได้จ่ายไป จากนั้นพอผ่านมา 7 เดือน คดีไม่คืบหน้า จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีช่วยเร่งรัดคดี จนกระทั่งมีผู้มาพบศพนายไพวัลย์.-สำนักข่าวไทย