สำนักข่าวไทย 16 เม.ย.-ผู้ว่าการฯ ททท.เผยภาพรวมสงกรานต์ทั่วไทยคึกคัก เชื่อรายได้ทะลุ 20,000 ล้านบาท เดินหน้าส่งเสริมเมืองรองต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 15 เม.ย.นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมในพิธีปิดกิจกรรม “ม่วนกุ๊บ สงกรานต์อีสานหนองคาย” ประจำปี 2562 ภายในบริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายหลังเดิม ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13–15 เมษายน ซึ่งงานนี้เป็นปีที่ 2 ที่ทางเทศบาลเมืองหนองคายร่ว่มกับ ททท.จัดขึ้น
ภายในงานเน้นกิจกรรมทางวัฒนธรรม ทั้ง กิจกรรมสรงน้ำพระ 9 ส. ร่วมก่อเจดีย์ทราย การออกร้านเทศกาลอาหารหน้าร้อน 5 ภาค การแสดงดนตรีศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังมีการสาดสีแสงไฟสปอร์ตไลท์บนตัวอาคารของจวนผู้ว่าฯหลังเดิม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียนในยุคอดีต ซึ่งได้เปิดให้ประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาได้เก็บภาพความประทับใจ
สำหรับภาพรวมการจัดงานสงกรานต์ทั่วประเทศ นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานเข้ามาจากสำนักงาน ททท.ทั่วประเทศ พบว่าปีนี้มีความคึกคักในทุกพื้นที่ มีการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง โดยเฉพาะเมืองรองที่ ททท.เข้าไปจัดงานสงกรานต์เป็นครั้งแรก ทั้งตาก มุกดาหาร และระนอง มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ร่วมงานคึกคัก โดยเฉพาะ จ.ตาก ที่ได้รับรายงานว่าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากจนต้องมีการขยายเวลาปิดงานจากเดิม 20.00 น.ต้องขยายเป็น 22.00 น. เพราะ ททท.ได้เน้นย้ำนอกจากความสนุกสนานแล้ว ยังให้ดึงเอาจุดเด่นของพื้นที่ รวมถึงประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามสอดแทรกเข้าไปด้วย
นอกจากนี้จังหวัดในเมืองรองที่ ททท.บุกเบิกเข้าไปจัดงานในปีที่แล้ว เช่น กำแพงเพชร สิงห์บุรี เป็นต้น ปีนี้ทุกจังหวัดก็ยังคงสานต่อความสำเร็จและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเมืองหลักที่จัดงาน ทั้งใน กรุงเทพฯ หรือขอนแก่น ภาพรวมประสบความสำเร็จอย่างมาก นักท่องเที่ยวเต็มล้น ตลอดการจัดงาน
ผู้ว่าการฯ ททท.กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวยอมรับว่าค่อนข้างกังวลกับตัวเลขที่วางไว้ เนื่องจากสถานการณ์หมอกควันในภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเมืองหลักที่จัดงาน แต่จากการทำงานอย่างหนักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ช่วงสงกรานต์สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ บรรยกาศจึงกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ทำให้ตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ทั้งยอดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 564,000 คน และคนไทยจะมีการเดินทางท่องเที่ยวประมาณ 3.1 ล้านคนครั้ง รวมถึงรายได้ช่วงสงกรานต์ จะเป็นไปตามเป้าที่ ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ส่วนแผนการสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีหน้า นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.ยังคงเดินหน้าสานต่อนโยบายกระจายรายได้สู่เมืองรอง และทำให้เป็นที่รู้จักของตลาดมากขึ้น เพราะตลอด 2 ปีที่เดินหน้าปั้นตลาดเมืองรอง สามารถทำให้จังหวัดต่างๆเป็นที่รู้จักได้มากขึ้น แผนการหลังจากนี้จะมีการคัดเลือกจังหวัดเพื่อจัดงานเคาท์ดาวน์ช่วงปีใหม่ และสงกรานต์ปีหน้า ส่วนจะเป็นจังหวัดไหน ขอคัดเลือกตามความเหมาะสม เพราะอย่าลืมว่าเมืองรองของไทย มีมากถึง 55 จังหวัด แต่ละแห่งมีจุดเด่น ความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมเป็นเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นแตกต่างกันออกไป ยืนยันแม้ เรื่องการส่งเสริมทำให้เมืองรองเป็นที่รู้จัก ททท.ก็จะยังไม่ทิ้งเมืองหลัก จะยังคงส่งเสริม และสร้างการรับรู้ แนะนำสถานที่ใหม่ๆในเมืองหลักให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสได้มากขึ้น
ด้านนายวรากร เจียรเสริมสิน นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย กล่าาว่า ปีนี้งานสงกรานต์ในเมืองรอง หนองคายถือว่าประสบความสำเร็จ อย่างมาก นอกจากคนในพื้นที่เดิมที่กลับมาเยี่ยมภูมิลำเนาในช่วงสงกรานต์ที่มีไม่ต่ำกว่า 1 แสนคนแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามฝั่งมาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ และมากราบไหว้สักการะสรงน้ำ หลวงพ่อพระใส ภายในวัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง รวมแล้วช่วงเทศกาลสงกรานต์ในหนองคายช่วง 13-15 เมษายนนี้ เงินจะสะพัดในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ จ.หนองคาย จัดงานวันไหล บริเวณทางเดินริมแม่น้ำโขง หน้าวัดลำดวน ระหว่างวันที่ 16-18 เมษายน เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น.โดยจะสร้างอุโมงค์น้ำ ภายใต้ธีมงาน เรืองแสงริมแม่น้ำโขง ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนในพื้นที่ และฝั่ง สปป ลาว ที่ไม่ได้หยุดงานในช่วงสงกรานต์มีโอกาสได้มาเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งก็จะสอดคล้องกับช่วงวันที่ 18 เมษายน ที่จะมีพิธีอัญเชิญ หลวงพ่อพระใส กลับขึ้นอุโบสถ จะมีพิธีแห่อย่างยิ่งใหญ่
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การจัดวันไหลในปีแรก อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ หรืออาจจะไม่ติดตลาดทันที แต่การได้เริ่มทำให้คนหมู่มากได้ยิน ให้เกิดการรับรู้ เชื่อว่าจะประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกับ งานสงกรานต์ม่วนกุ๊บ ที่จัดในปีนี้.- สำนักข่าวไทย