คสช.เผย สงกรานต์ 5 วัน ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับแล้ว 5,318 คัน

กรุงเทพ 16 เม.ย.- คสช. พร้อมดูแลประชาชนเดินทางกลับ เตือนพักรถ พักคนเป็นระยะเพื่อความปลอดภัย เผย 5 วัน ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับ แล้ว 5,318 คัน


พันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และรองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า วันนี้(16 เม.ย.)ประชาชนทยอยเดินทางกลับจากการเฉลิมฉลองและท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าการจราจรจะมีความคับคั่งเพิ่มมากขึ้นตลอดทั้งวัน  อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ขับขี่เตรียมแผนการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีรถหนาแน่น รักษาวินัยจราจร  โดยเฉพาะ ดื่มไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน๊อค ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด พักรถพักคนเป็นระยะ โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วนจะดูแลการเดินทาง อำนวยความสะดวก ทั้งในพื้นที่สถานีขนส่ง ม เส้นทางคมนาคทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง เปิดเส้นทางพิเศษ ช่วยการระบายรถให้มีความคล่องตัว 

สำหรับมาตรการ  “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” พบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 15 เมษายน  เป็นรถจักรยานยนต์ กระทำความผิด 45,508 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดไว้ 1,166 คัน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 42,696 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 2,291 คน ยึดรถยนต์ 457 คัน


โดยตลอด 5 วันที่ผ่านมา (11-15 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 5,318 คัน (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 3,907 คัน และรถยนต์ 1,411คัน ) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ 104,279 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 73,139 คน

พันเอกหญิงศิริจันทร์  กล่าวว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าสถิติผู้ฝ่าฝืนมาตรการปลอดภัยมีจำนวนมากนั้น เนื่องจากมีผู้ใช้เส้นทางจำนวนมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มจำนวนจุดบริการและจุดตรวจสอบมากขึ้น ทำให้ตรวจพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับมากขึ้นเช่นกัน  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้ทั้งมาตรการทางนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ เน้นการสร้างความเข้าใจ ขอความร่วมมือ หรือการจัดส่งคนที่ดื่มกลับบ้าน เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนปลอดภัยเป็นสำคัญ

สำหรับรถที่ควบคุมไว้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและจัดหาสถานที่เก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสม  โดยผู้เป็นเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้หลังเทศกาลตามเวลาที่กำหนด ยกเว้นรถที่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี ต้องรอให้กระบวนการทางคดีเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว