เชียงใหม่ 1 เม.ย. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือยังถูกหมอกควันปกคลุมอย่างหนัก ส่วนหนึ่งมาจากไฟที่ไหม้ป่า ซึ่งตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั่วภาคเหนือพบจุดความร้อนจากการเผามากกว่า 3,000 จุด เฉพาะ จ.เชียงใหม่ มีกว่า 600 จุด รวมทั้งไฟไหม้ป่าบนดอยหลวงเชียงดาว ติดต่อกันมา 5 วัน 5 คืน ป่าถูกไฟไหม้ไปแล้วกว่า 400 ไร่ แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามเข้าสกัดไฟอย่างเต็มกำลัง แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก
เจ้าหน้าที่ระดมกำลังนับร้อยนาย รวมทั้งชาวบ้านที่เป็นอาสาสมัคร กระจายกันเข้าสกัดไฟบนดอยหลวงเชียงดาว เดินเท้าเข้าหาจุดเกิดไฟไหม้ โดยมีเฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทิ้งน้ำสนับสนุนทางอากาศ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีไฟไหม้บนดอยหลวงเชียงดาวรวม 13 จุด ดับได้แล้ว 4 จุด เจ้าหน้าที่ชุดหนึ่งเดินเท้าเข้าทางม่อนพระจันทร์ทรงกลด เดินเท้าขึ้นสู่ดอยหลวงเชียงดาวที่สูงชัน ตามพื้นจะเห็นใบไม้แห้งทับถมกันจำนวนมาก กลายเป็นเชื้อเพลิงสะสมชั้นดี ใช้เวลานานนับชั่วโมงจึงเข้าถึงจุดที่เกิดไฟไหม้ป่าลุกลาม
ลมที่พัดแรงทำให้ไฟลุกโหม การดับไฟทำได้ยาก เนื่องจากเป็นหน้าผาสูงชัน เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงทำแนวกันไฟสกัดไว้ไม่ให้ลุกลาม ท่ามกลางหมอกควันไฟที่ปกคลุมหนาแน่น แสบหู แสบตา หายใจแทบไม่ออก เห็นถึงความยากลำบากของเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่พยายามเข้าสกัดไฟให้อยู่ในวงจำกัด แต่เมื่อมีลดพัดแรง ทำให้ไฟที่ไหม้ลุกโหมขึ้นมาอย่างรุนแรงและสะเก็ดไฟบางส่วนลอยข้ามแนวกันไฟเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยออกมา เพราะเสี่ยงที่จะถูกไฟล้อม ซึ่งอันตรายถึงชีวิตจากไฟคลอก
โชคดีที่เฮลิคอปเตอร์ที่บินทิ้งน้ำรวม 17 เที่ยว ทิ้งน้ำลงตรงจุดนี้ ทำให้ไฟลดความรุนแรงลง เป็นชัยชนะเล็กๆ ของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมไฟจุดนี้ให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่มีอีกหลายจุดที่เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยไม่สามารถเข้าไปได้
ไฟที่ลุกไหม้บนดอยหลวงเชียงดาวมา 5 วัน 5 คืน กินพื้นที่ป่าทั้งในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาวและป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว ไปแล้วกว่า 400 ไร่ นอกจากป่าที่เสียหายหมอกควัน ฝุ่นพิษปกคลุมกระทบชีวิตผู้คนมากมาย จากความเห็นแก่ได้ของคนเพียงบางกลุ่ม ยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าหลายพันหลายหมื่นชีวิตที่ต้องดิ้นหนีไฟคลอก แต่บางตัวอาจหนีไม่ทัน อย่างลูกลิงวอกอายุ 6 เดือนตัวนี้ พบถูกรมควันตายอย่างน่าสลดใจ อยู่ในป่าบนดอยหลวงเชียงดาว. – สำนักข่าวไทย