“พาณิชย์” คาดนโยบายภาษี “ทรัมป์” ส่งผลอัตราเงินเฟ้อไทยลดลง

กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – ผู้อำนวยการ สนค. คาดนโยบายปรับขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากไทยเป็น 37% จะส่งผลให้มีการเจรจาทางการค้าระหว่างกัน เชื่อจะทำให้อัตราเงินเฟ้อของไทยปรับลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม หากไทยนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐอเมริกาเพิ่ม รวมถึงสินค้ากลุ่มพลังงาน


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนมีนาคม 2568 เท่ากับ 100.35 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งเท่ากับ 99.51 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 0.84 (YoY) โดยปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เนื้อสัตว์ และอาหารสำเร็จรูป ประกอบกับมีการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล และค่าเช่าบ้าน เป็นสำคัญ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยสูงขึ้นร้อยละ 1.08 (YoY) ซึ่งยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 22 จาก 130 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับ 4 ในกลุ่มประเทศอาเซียนจาก 8 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (อินโดนีเซีย บรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และ สปป.ลาว)


อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้นร้อยละ 0.84 (YoY) ในเดือนนี้ มีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้

หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 2.35 (YoY) จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ

  • กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ (ร้อน/เย็น)) กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (เนื้อสุกร ปลานิล ปลาทู กุ้งขาว) กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มผลไม้สด (ทุเรียน ฝรั่ง สับปะรด มะพร้าวอ่อน) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำพริกแกง) กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมอบ) และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน น้ำตาลทราย) อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ผักสดบางชนิด (มะนาว พริกสด ผักกาดขาว ขิง ผักชี ต้นหอม มะเขือ ขึ้นฉ่าย) ไข่ไก่ ไก่ย่าง ผลไม้บางชนิด (องุ่น มะละกอสุก) และอาหารโทรสั่ง (Delivery)
  • หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ 0.18 (YoY) จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว สบู่ถูตัว แป้งผัดหน้า) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยาถูพื้น น้ำยารีดผ้า) เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้า (กางเกงขายาวบุรุษ เสื้อยืดบุรุษและสตรี) ขณะที่มีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาสูงขึ้น อาทิ น้ำมันดีเซล ค่าเช่าบ้าน และค่าแต่งผมบุรุษและสตรี

อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้นร้อยละ 0.86 (YoY) ชะลอตัวลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่สูงขึ้นร้อยละ 0.99 (YoY)


ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนมีนาคม 2568 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ลดลงร้อยละ 0.20 (MoM) ตามการลดลงของหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 0.44 (MoM) โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง (แก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน) ตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกที่ลดลง และค่ากระแสไฟฟ้า จากมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้ ค่าของใช้ส่วนบุคคล (ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน) และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยารีดผ้า) ราคาปรับลดลงจากกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ สำหรับสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารเครื่องบิน และกางเกงขายาวสตรี ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.19 (MoM) ปรับสูงขึ้นตามราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะเนื้อสุกร และผักสด (ผักคะน้า มะนาว มะเขือ ผักกวางตุ้ง ผักชี) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากสภาวะอากาศร้อน ขณะที่ความต้องการบริโภคยังมีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคากาแฟผงสำเร็จรูป และน้ำมันพืช มีการปรับสูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีสินค้าที่ราคาปรับลดลง อาทิ อาหารโทรสั่ง (Delivery) ไข่ไก่ ผักสดบางชนิด (ชะอม แตงกวา พริกสด) และผลไม้บางชนิด (มะม่วง ฝรั่ง แตงโม)

ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ยไตรมาสแรกของปี 2568 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2567 สูงขึ้นร้อยละ 1.08 (YoY) และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ลดลงร้อยละ 0.14 (QoQ)

แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 คาดว่า จะปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยมีปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่ (1) ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง (2) ฐานราคาผักสดและไข่ไก่ในปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูง ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวยมากกว่าปี 2567 ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น (3) การลดลงของราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลก โดยราคาในปีนี้ต่ำกว่าปีก่อนหน้า จึงส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ภายในประเทศปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกัน และ (4) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ดี มีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น ได้แก่ (1) วัตถุดิบต้นน้ำของสินค้าเกษตรบางชนิดราคายังอยู่ระดับสูง โดยเฉพาะพืชสวน เช่น มะพร้าว กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปปรับตัวสูงขึ้น ทั้งกะทิ กาแฟ และน้ำมันพืช และ (2) อาหารสำเร็จรูป โดยเฉพาะอาหารพร้อมทาน ราคายังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากมีการปรับราคาตามต้นทุนวัตถุดิบบางชนิดที่สูงขึ้น

นอกจากนี้คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับลดลงโดยเป็นผลจากนโยบายอัตราภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Trade and Tariffs) ของสหรัฐอเมริกาเนื่องจากจะต้องมีการเจรจาการค้าระหว่างกัน โดยหากในไตรมาส 2/2568 ไทยมีการนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐอเมริกามากขึ้น รวมถึงสินค้ากลุ่มเชื้อเพลิงซึ่งต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จะทำให้อัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 2/2568 ลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม

ทั้งนี้ เตรียมจะนำผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐอเมริกามาประกอบการพิจารณาคาดการณ์เงินเฟ้อตลอดปี 2568 ใหม่ทั้งหมด โดยจะเผยแพร่ผลคาดการณ์ได้ในต้นเดือนพฤษภาคมนี้จะนำมาพิจารณาคาดการณ์เงินเฟ้อใหม่ทั้งหมด.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

มติสภาฯ 313:142 หนุนเดินหน้าโหวตนายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.-มติสภาฯ 313 : 142 เสียง เลื่อนวาระโหวตนายกฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ช่วงในการพิจารณาญัตติขอเลื่อนเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายยกฯ ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ที่ใช้เวลาอภิปรายแสดงความเห็นนานกว่า 1 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวรายงานในความเห็นของฝั่งที่คัดค้านไม่ให้เลื่อนวาระพิจารณา ได้ย้ำถึงประเด็นความไม่ชอบตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดหลักการตรวจสอบถ่วงดุล ระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายค้าน ตามที่ข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน มีข้อความต่อการสนับสนุนให้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ บริหาร4 เดือน เพื่อทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนยุบสภา ซึ่งตอนหนึ่งในการอภิปรายของ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การให้ความเห็นชอบนายกฯ ตามมาตรา 159 ระบุว่าต้องทำโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสส.ทั้งสภาฯ ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ว่าต้องการให้มีรัฐบาลเสียงข้างมาก กรณีที่มีข่าวซึ่งตนไม่สบายใจต่อระบบพิศดารในการเมือง ไม่มีเห็นพรรคการเมืองรวมตัวเลือกนายกฯและแสดงตัวไม่ร่วมรัฐบาล “ผมถามว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ผมและประธานสภาฯ ตีความไม่ได้ แต่สงสัยระแวงได้ ผมขอให้ทุกพรรคที่ประสงค์จัดตั้งรัฐบาลให้เข้าร่วมรัฐบาลทุกพรรค หากไม่ร่วมแต่จะเป็นฝ่ายค้านนั้นขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน […]

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สดุดีทหารกล้าในเหตุการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา

กองทัพไทย 5 ก.ย.-ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สดุดีทหารกล้าในเหตุการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา สะท้อนจิตวิญญาณนักรบที่ยิ่งใหญ่ก้าวข้ามยศตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทย พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประธานพิธีวางพวงมาลาสดุดีทหารกล้า บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละของกำลังพล 15 นายที่พลีชีพเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ พร้อมทั้งร่วมไว้อาลัยต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ 14 คน จากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชาระหว่างวันที่ 24–28 กรกฎาคม 2568 โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและเครือข่ายมวลชน ร่วมในพิธี กว่า 4,440 คน รวมทั้งผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย และนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ระบุถึงการจัดพิธีสดุดีทหารกล้าและไว้อาลัยประชาชนที่สูญเสียจากเหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชาในครั้งนี้ ว่า เป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วน และสิ่งสำคัญคือการได้เห็นถึงคุณค่าของนักรบตัวเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมาจากทุกภูมิภาคของประเทศ บางคนมาจากหมู่บ้านเล็กๆ และบางคนมาจากครอบครัวที่ยากจน เมื่อวันหนึ่งมีภัยคุกคามก็ได้เข้ามาร่วมกันจับอาวุธเพื่อปกป้องแผ่นดิน ถือเป็นคุณค่าสูงสุดที่ก้าวข้ามยศและตำแหน่ง สะท้อนจิตวิญญาณของนักรบ จึงต้องร่วมกันแสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่แผ่นดินไทยให้เกียรติทหารเหล่านี้และวันนี้ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็ได้ทำหน้าที่นั้นแล้ว ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ระบุถึงความสูญเสียในส่วนของพลเรือนว่า เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึง และจะต้องช่วยกัน […]

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]