นักการเมืองอินโดนีเซียแข่งชูนโยบายแก้ระบบการศึกษา

จาการ์ตา 19 มี.ค.- นักการเมืองอินโดนีเซียที่กำลังหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปเดือนหน้าพากันชูนโยบายแก้ระบบการศึกษาที่ถูกโทษในวงกว้างว่าเป็นต้นเหตุทำให้เยาวชนขาดทักษะในการทำงาน และตกงานเป็นจำนวนมาก 


ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดที่ลงเลือกตั้งอีกสมัยในวันที่ 17 เมษายนนี้ รับปากจะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในการบริหารประเทศเป็นสมัยที่สอง หลังจากมุ่งปรับปรุงสาธารณูปโภคอย่างถนน รถไฟ และท่าอากาศยานตั้งแต่รับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2557 รัฐบาลของเขาจะทุ่มงบประมาณ 1,220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 38,620 ล้านบาท) ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากสามปีที่ผ่านมาถึงสองเท่า ปรับปรุงวิทยาลัยอาชีวศึกษา 14,000 แห่งที่มีนักศึกษา 320,000 คน หวังเอาอย่างระบบพัฒนาทักษะของเยอรมนี แต่ถูกนายซานเดียกา อูโน ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับ พล.ท.ปราโบโว ซูเบียนโต โจมตีในการโต้วาทีผู้สมัครรองประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์ว่า เป็นไปได้อย่างไรที่ประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 15-16 ของโลกอย่างอินโดนีเซียไม่มีงานให้คนหนุ่มสาวทำ เด็กจบอาชีวะเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในกลุ่มคนว่างงาน 7 ล้านคนทั่วประเทศ หากได้รับเลือกตั้งเขาจะลดจำนวนเยาวชนว่างงานลงให้ได้ถึง 2 ล้านคน 

อินโดนีเซียได้เปรียบเรื่องมีคนวัยแรงงานจำนวนมาก แต่ร้อยละ 90 ของแรงงาน 131 ล้านคนจบการศึกษาต่ำกว่าระดับวิทยาลัย และกว่าครึ่งทำงานนอกระบบ ธนาคารโลกระบุว่า คนจบการศึกษาในอินโดนีเซียกว่าร้อยละ 55 เขียนอ่านไม่แตก คือไม่เพียงพอที่จะนำไปใช้งาน ขณะที่องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ หรือโออีซีดี (OECD) จัดให้อินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 62 จากทั้งหมด 72 อันดับในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือปิซา (PISA) ที่วัดทักษะด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และการอ่านของเด็กวัย 15 ปี ซึ่งตามสากลถือว่าเป็นวัยจบการศึกษาภาคบังคับ 


ประธานสมาคมนายจ้างอินโดนีเซียชี้ว่า วิทยาลัยอาชีวศึกษาในอินโดนีเซียตามไม่ทันและไม่สอนทักษะอย่างที่นายจ้างต้องการ ทำให้นายจ้างต้องฝึกทักษะให้ใหม่ทุกครั้งที่รับเข้าทำงาน ขณะที่ผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่ถือว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตายอมรับว่า การไล่ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องยากมาก วิชาบริหารงานสำนักงานที่นำมาแทนวิชาเลขานุการสอนยังคงสอนเรื่องการใช้เครื่องโทรสารหรือแม้แต่เครื่องพิมพ์ดีด แต่ไม่มีการสอนเรื่องปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ และระบบอัตโนมัติให้แก่นักศึกษา.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก