fbpx

ทนายขอโทษที่ให้อดีตซีอีโอนิสสันใส่ชุดคนงานออกจากคุก

โตเกียว 8 มี.ค.- ทนายความคนหนึ่งของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) นิสสันมอเตอร์ ขอโทษที่ทำให้ชื่อเสียงของลูกความมัวหมอง เพราะแนะนำให้สวมชุดคนงานก่อสร้างในวันที่ได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำ หวังหลบเลี่ยงการติดตามของสื่อมวลชน


ภาพนายกอส์นวัย 64 ปี สวมชุดคนงานก่อสร้างสีน้ำเงิน สวมหมวกและหน้ากากอนามัยเดินออกจากจากเรือนจำในกรุงโตเกียวเมื่อวันพุธกลายเป็นภาพข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับในญี่ปุ่น นายทาคาชิ ทาคาโน หนึ่งในคณะทนายความเขียนบล็อกวันนี้ว่า เป็นคนแนะนำให้นายกอส์นแต่งตัวแบบนี้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว และเพื่อไม่ให้สื่อติดตามไปถึงที่พัก แต่แผนอ่อนหัดของเขาได้ทำให้ชื่อเสียงที่นายกอส์นสร้างมาทั้งชีวิตต้องมัวหมอง เขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ได้ก่อความเสียหายทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ให้แก่บุคคลมากมาย ทั้งหมดที่ทำไปมีจุดประสงค์เดียวคือ ไม่ต้องการให้สื่อรู้ที่อยู่ที่พักของนายกอส์น เพราะนอกจากจะทำให้นายกอส์นไม่สามารถกลับไปมีชีวิตตามปกติแล้ว ยังจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของกอส์น รวมทั้งเป็นภัยต่อชีวิตครอบครัวและเพื่อนบ้านด้วย 


ทั้งนี้หลังจากนายกอส์นขึ้นรถตู้คันเล็กออกจากเรือนจำ กองทัพสื่อมวลชนพากันติดตามรถของเขาอย่างไม่ลดละ มีการใช้เฮลิคอปเตอร์และรถจักรยานยนต์ตามด้วย รถพาเขาไปยังสำนักงานของทนายความ ก่อนจะเล็ดลอดหลบการติดตามของสื่อมวลชนไปยังที่พักในกรุงโตเกียวที่ไม่มีใครทราบ ขณะที่วันรุ่งขึ้นรายการข่าวตามสถานีโทรทัศน์ในญี่ปุ่นพากันเล่นข่าวการปลอมตัวของอดีตซีอีโอนิสสันอย่างละเอียด บางรายการถึงกับแต่งกายเลียนแบบด้วย 

นายกอส์นถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ถูกตั้ง 3 ข้อหาเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบทางการเงิน ศาลอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 1,000 ล้านเยน (ราว 285.87 ล้านบาท) โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องพักในที่พักในกรุงโตเกียวที่ศาลเป็นผู้กำหนด มีกล้องวงจรปิดติดหน้าประตูเข้าออกแล้วส่งภาพบันทึกจากกล้องให้ศาลเป็นระยะ อนุญาตให้ใช้ได้เพียงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สำนักงานทนายความแต่ห้ามเข้าอินเทอร์เน็ต หากละเมิดเงื่อนไขจะถูกริบเงินประกันและกลับเข้าเรือนจำทันที.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553