วอชิงตัน 25 ก.พ.- เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีของสหรัฐระบุว่า ระเบียบการค้าอิเล็กทรอนิกส์หรืออีคอมเมิร์ซแบบใหม่ที่อินเดียเปิดเผยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อคุ้มครองบริษัทในประเทศอาจยิ่งจำกัดการทำธุรกิจของต่างชาติในอินเดีย โดยเฉพาะแอมะซอนและวอลมาร์ตของสหรัฐ
ซีเอ็นบีซีมองว่า อินเดียพยายามดำเนินรอยตามจีนที่ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมบริษัทอีคอมเมิร์ซในประเทศอย่างไป่ตู้ อาลีบาบา และเทนเซ็นต์ให้ก้าวขึ้นเป็นบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ระดับโลก ด้วยการมีข้อจำกัดมากมายกับบริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจในจีน ร่างระเบียบอีคอมเมิร์ซแบบใหม่ของอินเดียกำหนดให้บริษัทที่ทำธุรกิจในอินเดียต้องเก็บข้อมูลไว้ในอินเดีย เพิ่มศูนย์ข้อมูลและกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ในอินเดีย รัฐบาลอินเดียให้เหตุผลว่า มาตรการนี้นอกจากช่วยส่งเสริมระบบคอมพิวเตอร์ในอินเดียแล้ว ยังช่วยสร้างงานในประเทศด้วย เพราะข้อมูลเกี่ยวกับอินเดียควรใช้เพื่อการพัฒนาอินเดีย การนำข้อมูลมาสร้างรายได้จึงควรเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อพลเมืองและธุรกิจอินเดียด้วย
ซีเอ็นบีซีระบุต่อไปว่า ร่างระเบียบใหม่ให้เวลาบริษัทต่างชาติสามปีในการเตรียมตัวหรือจัดทำโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และต้องเป็นบริษัทจดทะเบียนในอินเดียเพื่อให้ดำเนินธุรกิจในอินเดียต่อไป ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซของอินเดียยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่คาดว่าจะขยายตัวจากที่ไม่ถึง 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่ถึง 1.22 ล้านล้านบาท) ในปี 2560 เป็น 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.25 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2569.-สำนักข่าวไทย