รร.แกรนด์ไฮแอท 31 ส.ค. – นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน Thailand Focus 2016 และปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ว่า นักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามารับฟังข้อมูลในงานวันนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่ามีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคตว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้น จากนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เคยให้สัญญากับนักลงทุนต่างชาติเมื่อปีก่อนใน 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การผลักดันเศรษฐกิจให้มีความมั่นคงผ่านการช่วยเหลือในกลุ่มฐานราก ผู้มีรายได้น้อย เอสเอ็มอี และเกษตรกร 2.การผลักดันการลงทุนในประเทศให้มากขึ้น และ 3. การพัฒนาระบบการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-เพย์เมนท์ ซึ่งทั้ง 3 สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 /2559 เติบโตสูงถึงร้อยละ 3.5 ซึ่งเกือบเป็นระดับสูงสุดที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีรัฐบาลจะผลักดันอีก 3 เรื่องใหญ่ คือ 1. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการขนส่งในทุกรูปแบบ 2.การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับภาคเอกชนเพื่อกระตุ้นการลงทุน การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้เอกชนเริ่มการลงทุนทันต่อเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวในอนาคต และ 3. การผลักดันเมืองการค้าปลอดภาษีชายแดน เพื่อเชื่อมโยงการค้า กับประเทศเพื่อนบ้าน และตั้งเป้าหมายพัฒนาภาคตะวันออกให้เป็นพื้นที่การลงทุน หรืออีสเทริน์ซีบอร์ด 2 ดังนั้น จึงเชื่อว่าเมื่อนักลงทุนต่างชาติได้ฟังข้อมูลจากรัฐบาลจะมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจมากขึ้นและจะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งตลาดหุ้นไทยเป็นตัวสะท้อนภาวะเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี หากเศรษฐกิจดี หุ้นก็จะปรับขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน สูงถึงร้อยละ 20 ติดอันดับตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงในอันดับต้น ๆ ของโลกและเป็นตลาดหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในอาเซียน
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การจัดงาน Thailand Focus 2016 ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด A New Growth Strategy โดยมีบริษัทจดทะเบียนให้ความสนใจและเข้าร่วมงานครั้งนี้ 140 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งบริษัทขนาดใหญ่ กลาง เล็ก และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมถึง 11.75 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 77 ของมูลค่ารวมของตลาด
ด้านนางพัชนี ลิ่มอภิชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ผู้จัดการกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งนั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความสนใจในตลาดหลักทรัพย์ไทย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงมีเสถียรภาพ ทั้งการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ผนวกกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และหลังการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย