เจนีวา 13 ก.พ.- องค์กรระดับโลกเตือนว่า วัยรุ่นกว่า 1,000 ล้านคน หรือราวครึ่งหนึ่งของวัยรุ่นทั่วโลกเสี่ยงมีปัญหาในการได้ยินเพราะฟังเพลงเสียงดังจากสมาร์ทโฟนและเครื่องเสียงส่วนตัวอื่น ๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ราวครึ่งหนึ่งของคนอายุ 12-35 ปี ทั่วโลกเสี่ยงมีปัญหาในการได้ยินอันเป็นผลจากการฟังเสียงดังเป็นเวลานานและต่อเนื่อง วัยรุ่นจะต้องตระหนักว่า หากสูญเสียการได้ยินแล้วจะไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้เหมือนเดิม ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้สูญเสียการได้ยิน 466 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 5 ของประชากรโลก ในจำนวนนี้ 34 ล้านคนเป็นเด็ก แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเกิดจากการฟังเพลงเสียงดังจำนวนเท่าใด พร้อมกับแนะนำว่า ไม่ควรฟังเสียงดังเกิน 85 เดซิเบลเป็นเวลาติดต่อกัน 8 ชั่วโมง หรือเกิน 100 เดซิเบลเป็นเวลานาน 15 นาที
องค์การอนามัยโลกร่วมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศออกมาตรฐานการผลิตและการใช้เครื่องเสียงที่ไม่บังคับเรียกว่า มาตรฐานระบบและอุปกรณ์การฟัง Safe เสนอให้ติดตั้งซอฟท์แวร์ควบคุมเสียงในเครื่องเสียงทุกชิ้น เพื่อติดตามระดับความดังของเสียง ระยะเวลาการฟัง และประเมินความเสี่ยงต่อการได้ยิน แล้วแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้มีพฤติกรรมการฟังที่เป็นอันตราย ควบคู่ไปกับการมีระบบควบคุมเสียงที่ต้นกำเนิดและควบคุมเสียงอัตโนมัติเพื่อป้องกันการใช้ในทางที่เป็นอันตราย แม้ปัจจุบันสมาร์ทโฟนและเครื่องเสียงบางชนิดมีระบบแบบนี้แล้ว แต่องค์การอนามัยโลกอยากให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก.- สำนักข่าวไทย