กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คนกรุงเผชิญกับมลพิษ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ต่างหาสารพัดวิธีป้องกันตัวเองและคนในครอบครัว “เครื่องฟอกอากาศ” เป็นอีกอุปกรณ์หนึ่ง แต่ขณะนี้เริ่มขาดตลาด
คุณวรเมธ ตระกูลมณี ระบายความในใจ หลังภรรยาให้กำเนิดลูกสาวได้ไม่นาน ก็ต้องประสบกับมลพิษทางอากาศ PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน โชคดีที่ครอบครัวซื้อเครื่องฟอกอากาศไว้แล้ว แต่โชคร้ายที่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ ตระเวนหาทั่วกรุงก็ไม่มีขาย จนต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ พร้อมกับเปลี่ยนพฤติกรรมเลี้ยงลูก กลายเป็นมนุษย์ถ้ำ และได้แต่หวังว่าอากาศจะดีขึ้น
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ย่านพระราม 4 กลับพบเครื่องฟอกอากาศเหลือเพียงตัวสุดท้าย รอขนส่งให้กับลูกค้า พนักงานเล่าว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว เฉลี่ย 2 วัน 15 เครื่อง จากเดิม 1 เดือน ไม่ถึง 10 เครื่อง จนขณะนี้ผู้จัดจำหน่ายไม่มีสินค้าจัดส่ง สินค้าขาดตลาดเป็นประวัติการณ์
“เครื่องฟอกอากาศ” กลายเป็นความหวังของหลายคนที่จะได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ระบุวิธีการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่จะสามารถช่วยดักจับ PM 2.5 ได้นั้น ต้องใช้แผ่นกรองอากาศชนิด HEPA คุณสมบัติพิเศษจัดการกับมลพิษที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน ซึ่งสามารถกรองได้ถึง 99.97% และต้องเหมาะสมกับขนาดของห้อง จึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การใช้เครื่องฟอกอากาศอย่างถูกวิธี นอกจากเสียบปลั๊กเปิดเครื่องแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม แนะต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศสม่ำเสมออย่างน้อย 3 เดือนครั้ง พร้อมกับทำความสะอาดภายในห้อง ปิดให้มิดชิด ก่อนเปิดใช้งาน แต่หากไร้การดูแล ก็ไม่ต่างกับสภาพอากาศนอกบ้านที่ยังคงคลุกฝุ่น หายใจไม่เต็มปอด. – สำนักข่าวไทย