ลำปาง 30 ม.ค.-รุ่นพี่และเพื่อนรวม 12 คน รุมทำร้ายเด็กชาย ม.2 ภายในห้องเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เกาะคา จ.ลำปาง บังคับให้กราบเท้าถ่ายคลิปประจาน ข่มขู่ห้ามบอกใคร
จากกรณีที่มีการแชร์คลิบวิดีโอบนโลกออนไลน์ ความยาวประมาณ 43 วินาที ซึ่งในคลิปจะเห็นเด็กชาย ม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ถูกรุ่นพี่และเพื่อน จำนวน 12 คน กำลังรุมทำร้าย ซึ่งนั่งพับเพียบอยู่กับพื้น โดยมีรุ่นพี่หัวโจกนั่งอยู่บนเก้าอี้ และมีกลุ่มรุ่นพี่อีกจำนวนหนึ่งยืนล้อมอยู่ จากนั้นรุ่นพี่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ได้กระโดดลงมาตบเข้าศีรษะของเด็กชาย ม.2 หนึ่งครั้ง คนอื่นๆ ก็ตรงเข้ามาใช้กำลังรุมทำร้ายร่างกายเด็กชาย ม.2 ใช้เท้าเหยียบบริเวณใบหน้า บังคับให้รุ่นน้อง ม.2 ก้มกราบเท้า ก่อนจะรุมทำร้ายร่างกาย ทั้งเตะลำตัวและใบหน้าอีกหลายครั้ง นอกจากนี้ข่มขู่ห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร
จากการตรวจสอบคลิปนี้พบว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่กลุ่มเด็กนักเรียนรุ่นพี่ที่รุมทำร้ายรุ่นน้องได้นำคลิปที่บันทึกไว้มาเผยแพร่อวดเพื่อนๆ จนมีการแชร์กันในโลกออนไลน์
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านของเด็กชาย ม.2 ที่ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งอยู่ใน ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้พบกับเด็กชายวัย 14 ปี ซึ่งเป็นผู้ถูกทำร้ายร่างกายในคลิป เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ภายในโรงเรียน เมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคม 2561 หลังจากนั้นปิดเรื่องเงียบมาตลอด เพราะกลัวว่าจะถูกรุ่นพี่ทำร้ายอีก กระทั่งมีคลิปวิดีโอหลุดออกมา จนผู้ปกครองและญาติทราบเรื่อง จึงพาไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเกาะคา ขณะนี้ตำรวจเรียกคู่กรณีทั้งหมด รวมถึงผู้บริหารโรงเรียน มาพูดคุยเจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหายแล้ว โดยคนที่รุมทำร้ายเด็กจะยอมจ่ายค่าสินไหมรายละ 3,000 บาท รวม 8 คน ส่วนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 4 คน จะจ่ายค่าสินไหมรายละ 2,000 บาท โดยตกลงจ่ายค่าสินไหมกันในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้
ขณะที่เด็กชาย ม.2 กล่าวว่า ช่วงวันเกิดเหตุตนไม่ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับรุ่นพี่มาก่อน อยู่ดีๆ ก็ถูกเพื่อนลากเข้าไปในห้องเรียนแล้วปิดประตูห้อง จากนั้นถูกกลุ่มนักเรียนชั้น ม.2 และ ม.3 รุมทำร้ายบาดเจ็บที่ศีรษะและบริเวณท้อง รวมทั้งบังคับให้กราบเท้า หลังเกิดเหตุตนก็หวาดกลัว ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง กระทั่งมีคลิปหลุดออกมา
ขณะที่ญาติของเด็กชาย ม.2 บอกว่าเห็นคลิปดังกล่าวเมื่อ 2 วันก่อน ครั้งแรกที่เห็นร้องไห้เสียใจมาก ไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับหลานชายของตนเอง เพราะตนเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เล็ก หลังจากแม่ของหลานเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งหลานเป็นเด็กดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร จะช่วยงานบ้านงานยายเป็นประจำ ส่วนเรื่องของคดีขอให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย เพราะได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะคา และตนได้ไปพบกับคู่กรณี และผู้บริหารโรงเรียนแล้ว ล่าสุดทางโรงเรียนกำลังพิจารณาให้กลุ่มเด็กทั้ง 12 คน โดย 6 คน ให้ย้ายโรงเรียนหลังจบปีการศึกษานี้ ส่วนอีก 6 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ และมีส่วนร่วมเล็กน้อย ถูกภาคทัณฑ์ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับนักเรียนคนอื่น.-สำนักข่าวไทย