ราชบุรี 29 ม.ค.-เกษตรกร อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี รวมกลุ่มปลูกกะหล่ำดอก หลังฤดูทำนา ราคากิโลกรัมละ 16-18 บาท เฉลี่ยปลูกกะหล่ำดอกประมาณ 3 เดือน สร้างรายได้ประมาณ 100,000-130,000 บาท
เบี้ยกะหล่ำดอกจากต้นเล็กๆ ที่เพาะไว้ในแปลง ไปขยายปลูกในแปลงใหญ่บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ ของกลุ่มผู้ปลูกผักปลอดภัย หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ที่มีสมาชิกกว่า 200 ราย มีพื้นที่ปลูกเกือบ 300 ไร่ กระจายทั่วพื้นที่รายละ 2-3 ไร่ จนออกดอกได้ผลเก็บเกี่ยวมาเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว หลังจากที่นายจาก รวมสิน อายุ 57 ปี ประธานกลุ่มปลูกผักปลอดภัย ได้รวบรวมสมาชิกเกษตรกร หันมาปลูกกะหล่ำดอกแทนการทำนาข้าว หลังฤดูเกี่ยวข้าวนาปีผ่านพ้นไป
โดยสมาชิกในกลุ่มจะมาลงแขกช่วยกันเก็บเกี่ยวผลผลิตใส่เข่งขนาดใหญ่ หากของใครเก็บเกี่ยวได้ก่อน เพื่อส่งขายตลาดกลางผักและผลไม้ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในภาคกลาง
เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ใน ต.ทุ่งหลวง เป็นพื้นที่อยู่นอกเขตชลประทาน ปลูกข้าวได้ปีละครั้ง เพราะต้องรอน้ำฝนเพียงอย่างเดียว หลังช่วงเก็บเกี่ยวฤดูนาปีเสร็จ เกษตรกรจะเปลี่ยนที่นามาปลูกกะหล่ำดอกในช่วงปลายฤดูฝน ใช้เวลาประมาณ 45 วัน สามารถตัดผลผลิตส่งตลาดได้
สำหรับปัญหาจะมีศัตรูพืชคือ หนอนใย และเชื้อรา ที่จะมาคอยรบกวน เกษตรกรจึงเลือกปลูกพื้นที่ที่ค่อนข้างห่างกัน จะช่วยดูแลศัตรูพืชได้ง่ายขึ้น ส่วนราคาช่วงนี้อยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 16-18 บาท บางช่วงได้ราคาถึงกิโลกรัมละ 20 บาท ขึ้นลงตามกลไกตลาด ถือว่าเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ โดยเฉลี่ยปลูกกะหล่ำดอกสูงสุดประมาณ 3 เดือน ได้เงินประมาณ 100,000-130,000 บาท เมื่อเทียบกับการปลูกข้าวไร่ละ 1 เกวียน ยังได้เงินไม่ถึง 30,000 บาท แต่ปลูกกะหล่ำดอกประมาณ 1 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 4,000-5,000 กิโลกรัม
ทั้งนี้ ขั้นตอนการปลูกได้มีการศึกษาเรียนรู้ ปลูกผักอย่างไรให้ปลอดภัย และมีคุณภาพ วิธีการปลูกให้ได้ผลผลิตดี ให้ปลูกช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายน หากพ้นเดือนเมษายนไปแล้วจะไม่นิยมปลูก เนื่องจากจะมีฝนตก ทำให้ผลผลิตไม่ดี ดอกกะหล่ำมีดอกใหญ่ น้ำหนักดี มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด เมื่อเก็บผลผลิตเสร็จสามารถนำเบี้ยที่เพาะไว้ปลูกลงแปลงปลูกใหม่ได้เลย ทุกวันนี้เกษตรกรใน ต.ทุ่งหลวง เริ่มให้ความสนใจหันมาปลูกกะหล่ำดอกกันมากขึ้น ถือเป็นพืชผักอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย