นายกฯ ยันทำงานเพื่อเห็นรอยยิ้มชาวนา

เชียงราย 30 พ.ย.- นายกฯ จับเข่าคุยเกษตรกร ยืนยันทำงานเพื่อเห็นรอยยิ้มชาวนาให้ลืมตาอ้าปากได้ บอกไม่ชอบอะไรที่หลอกลวง ชี้มาถึงวันนี้ได้เพราะทุ่มเทมา 7-8 ปี ออกตัวไม่ได้มาทำการเมือง บอกจะอยู่แค่ไหนเป็นเรื่องประชาธิปไตยการเลือกตั้งว่ากัน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ร่วมวงเสวนา“การปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน”ร่วมกับเกษตรกร อธิบดีกรมการข้าว และนายกสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก พร้อมเกษตรกร

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสุข เพราะในความคิดของรัฐบาลและนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล มุ่งหวังทำอย่างไรให้ทุกคนมีรายได้สูงขึ้น เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งยากพอสมควร แต่วันนี้ดีใจที่เห็นความก้าวหน้า ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและของตนที่ได้ให้แนวทางไว้ วันนี้งานเยอะหลายอย่างด้วยกัน แต่ทำเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทย อยากเห็นรอยยิ้มจากพวกเราทุกคนว่าเมื่อไหร่เราจะลืมตาอ้าปากได้ เมื่อไหร่จะหมดหนี้สิน ไม่ต้องทนทุกข์ เพราะทนทุกข์ในหลายเรื่อง จากปัญหาต่างๆ ที่ทุกคนเผชิญอยู่


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนคิดอยู่ตลอดว่า ทำอย่างไรให้ทุกคนลืมตาอ้าปากได้ให้มีรายได้ที่เพียงพอที่จะใช้จ่าย ซึ่งหลายอย่างมีการพัฒนาแล้ววันนี้ วันหน้าประเทศไทยจะเปลี่ยนอีกมาก ทุกคนต้องพัฒนาไปตามการเจริญเติบโตของบ้านเมืองไปด้วย ซึ่งเราเป็นแหล่งข้าวแหล่งน้ำอยู่แล้ว ชาวนาทุกคนจะเป็น Smart Farmer ได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องอาศัยความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ วันนี้นั่งรถเกี่ยวข้าว ซึ่งรถก็ร้อน นั่งทั้งวันคนเดียวก็จะบ้าเหมือนกัน แต่เกษตรกรต้องอดทนไม่มีใครอดทนเท่าคนไทยได้อีกแล้ว

“รายละเอียดทุกอย่างผมมีอยู่หมดแล้ว แต่วันนี้อยากฟังจากปากทุกคนเอง เพราะทุกคนคือคนทำ ฟังจากปากคนทำแสดงว่าทำจริง อะไรก็ได้ถ้าทำจริงจังมันก็จะสำเร็จ ผมไม่ชอบหลอกลวงอะไรกัน เพราะต้องการทำให้ประเทศนี้ดีขึ้น พวกเราทุกคนดีขึ้นเราจะอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากอธิบดีกรมการข้าวและตัวแทนเกษตรกร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องทำกระบวนการขั้นต้นของให้แข็งแกร่งตั้งแต่การผลิต แปรรูป การเพิ่มคุณภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่โลกให้ความสำคัญที่สุดการแก้ปัญหาโลกร้อน หากทำก่อนก็จะมีโอกาสก่อนประเทศอื่น เพราะวันหน้าเราต้องถูกกีดกัน ทั้งในเรื่องการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์โดยไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ถ้าทำอินทรีย์ทั้งหมดเราสามารถขึ้นทะเบียนได้ว่าเป็นสินค้ารักษ์โลก ภาษีก็จะลดลงอีก รายได้ก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งตนพูดในเวทีเอเปคไปแล้วในการสนับสนุนสินค้า BCG ซึ่งหลายอย่างเป็นปัญหาการกีดกันการค้า นอกจากเรื่องสงคราม


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมาเพื่อติดตามความก้าวหน้าของทุกคน ไม่ได้มาเพราะเรื่องอื่นๆ วันนี้ต้องมองให้ไกล ถ้ามองใกล้ตัวมันก็เห็นแต่ความทุกข์ จึงต้องมองนอกจากตัวเองไปถึงคนอื่นและกลไกที่เกี่ยวข้องกับคนอื่น รัฐบาลจึงจะช่วยได้ ยืนยันว่าตนจะสนับสนุนในโครงการเหล่านี้ต่อไปตราบใดที่ยังอยู่ พร้อมวางรากฐานให้รัฐบาลต่อๆ ไปด้วย ไม่เช่นนั้นมาพบทุกคนก็เจอกันแบบเดิม หน้าแห้งทุกที ทำนาเสร็จไม่รู้ไปไหนเข้ากรุงเทพฯเข้าเมืองหางานทำ ซึ่งวันนี้งานไม่ได้ง่ายนัก

“เราจะเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้าที่ใหญ่ในอาเซียนและเป็นแห่งหนึ่งของโลก วันนี้มาหลายบริษัทกำลังเจรจาหลาย อย่างวันนี้อยากจะบอกประเทศไทยมีโอกาสแล้วเพราะพวกเราอยู่กันสงบ เรียบร้อย มีความสุขมีเสถียรภาพ ทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดา แต่เอาน้อยๆลงหน่อยได้ไหม เพราะคนจับตาดูอยู่ เขาบอกประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญเป็นเป้าหมายสำคัญของโลกในปัจจุบัน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งหมดคือการปฏิรูปทุกมิติปฏิรูปการทำงานของเรา รัฐบาลต้องแก้ปัญหาทุกมิติ ที่ทำมาทั้งหมดนี้ ใช้เวลามานานพอสมควรหลายปีมาแล้ว ซึ่งหลายอย่างไม่ได้เกิดขึ้นวันเดียว 2 วัน หรือ ปี 2 ปี ที่พูดเมื่อกี้ใช้เวลากี่ปีกว่าจะทำวันนี้ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือถนนหนทางโลจิสติกส์ที่จะเชื่อมรวมทุกอย่างการไปมาหาสู่ การอำนวยความสะดวกต่างๆทั้งหมดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร เราทุ่มเทมามากพอสมควร 7-8 ปีไม่เช่นนั้นคงมาไม่ถึงวันนี้ นอกจากนี้ยังวางพื้นฐานโครงสร้างออนไลน์โซเชียลซึ่งไม่มีใครคิด แต่ทำมาหลายปีแล้ว ไม่ใช่แค่ตนแต่ทุกคนช่วยกันทำ เราช่วยกันทำมาหลายปีแล้วจึงได้เจริญเติบโตมาถึงวันนี้ ทำให้เราเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียนเรื่องดิจิทัลหรืออันดับต้นของโลกนี่คือโอกาสของพวกเราต้องเรียนรู้อยู่ด้วยกัน เสนอคิดกันอะไรที่รวมกลุ่มกันมาทำได้หมด ถ้าแยกเป็นกลุ่มๆ ตีกันไปตีกันมารัฐบาลทำอะไรไม่ได้ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งอยากบอกว่าวันนี้มีความสุข

จากนั้น พลอ.ประยุทธ์ ได้เดินพบปะทักทายเกษตรกร อย่าวอารมณ์ดี พร้อมขอให้ทุกคนโชว์ รอยยิ้มสยามให้ดูหน่อย ยิ้มกว้างๆ พร้อมระบุช่วงหนึ่งว่า “วันนี้แพ้อากาศน้ำมูกไหล แต่ไม่ได้เป็นโควิด ตรวจแล้ว และย้ำว่าขอให้ทุกคนระวังด้วย ไม่ได้บอกให้ตระหนก แต่วันนี้การท่องเที่ยวเราดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากเปิดประเทศ ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ มีปัญหา ทะเลาะเบาะแว้งก็ไม่มีใครมา ก่อนจะกล่าวว่า “เดี๋ยวหาว่ามาทำการเมือง ไม่ได้ทำการเมือง มาทำการบ้าน มาติดตามงานและนโยบายที่ให้ไว้ ทั้งหมดจะอยู่แค่ไหนเป็นเรื่องของประชาธิปไตยการเลือกตั้งว่ากันไป วันนี้ไม่ได้มาเรื่องการเมืองนะ เดี๋ยวจะโดนอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพร้อมกับยิ้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่บริเวณสระน้ำ บ้านเชียงคาน หมู่ที่ 14 ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินมาถึงเพื่อร่วมเสวนาฯ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และหน่วยหน่วยสอบวัตถุระเบิดและวัตถุต้องสงสัย (EOD) ได้ตรวจพบและทำการควบคุมตัว นายวิชาญ กาวีวงค์ อายุ 66 ปี ชาว ต.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรองประธานศูนย์ข้าวชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากตรวจยึดอาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ และลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด ปละกระสุนไม่ทราบขนาด อีก 1 นัด

โดยถูกตรวจพบและควบคุมตัวขณะซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ขณะเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธ ก่อนเช้าภายในงานทางเจ้าหน้าที่ (EOD) จึงทำการตรวจค้นจนพบอาวุธดังกล่าว จึงส่งต่อไปยังกองอำนวยการร่วม และอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีรายงานว่า นายวิชาญ อ้างว่าปืนปากกาและอาวุธที่พบนั้นเป็นของบุตรชาย และเสียชีวิตไปแล้ว

ทั้งนี้ ก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ นายกรัฐมนตรีได้แวะทักทายเด็กนักเรียนที่รอพบ พร้อมขอให้ทุกคนเป็นคนดี ตั้งใจเรียน รวมทั้งรักครอบครัว พ่อแม่ ครูอาจารย์ สถาบันทั้ง 3 และประเทศชาติ เรียนรู้ประวัติศาสตร์จะได้รู้ว่าเรามาจากไหน จากนั้นร่วมถ่ายรูปกับเด็กนักเรียนอย่างอารมณ์ดี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย