สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 11 ม.ค.- หลังจากทีมชาติไทย เอาชนะ บาห์เรน 1-0 ทำให้โอกาสการเข้ารอบ 2 ของเปิดกว้างมากขึ้น แต่ยังต้องมีเงือนไข หลายอย่างให้ลุ้นเช่นกัน ในศึกเอเชียน คัพ 2019
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย “เอเชียนคัพ 2019” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลุ่ม A นัดที่ 2 “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พบ บาห์เรน เตะที่อัล มัคตูม สเตเดียม นครดูไบ ผลงานนัดแรกที่ผ่านมา ทีมชาติไทย พ่าย อินเดีย 1-4 ขณะที่ บาห์เรน เสมอ “เจ้าภาพ” ยูเออี 1-1 เกมนี้ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน แทนที่มิโลวาน ราเยวัช ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยเปลี่ยนจากระบบ 4-3-3 มาเป็น 3-5-2 ให้ ธีรศิลป์ แดงดา จับคู่กับ อดิศักดิ์ ไกษร ล่าตาข่าย ครึ่งแรกยังเสมอ 0-0 ครึ่งหลัง นาทีที่ 58 ไทยก็ขึ้นนำ 1-0 จากการขึ้นเกมฝั่งขวาของ ทริสตอง โด เปิดให้ “เมสซี่ เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ วิ่งเข้ามายิงด้วยเท้าซ้ายเต็มข้อ ตุงตาข่าย ให้ช้างศึก ออกนำ 1-0 จากนั้นไทยยังมีโอกาสทำประตูเพิ่มจาก อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ยิงไปชนเสา ต่อด้วยจังหวะของ ธีรศิลป์ แดงดา แต่ยิงติดปลายมือของผู้รักษาประตูบาห์เรน จบเกม ไทยเฉือนชนะ 1-0 เก็บ 3 แต้มแรก
“โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กล่าวหลังเกมว่า เกมครึ่งแรกค่อนข้างอึดอัด เพราะปรับแท็กติกใหม่ แต่ครึ่งหลัง เริ่มเดินเกมได้ดี หลังนักเตะปรับตัวกันได้ และมุ่งมั่น ทำให้เก็บชัยชนะได้สำเร็จ ทำให้คนไทยมีความสุข ตั้งแต่ตนเข้ามารับงานกับโค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ ได้มาดูสิ่งที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการเสียประตูที่ 2 เกมกับอินเดียเพราะขาดสมาธิ กับการรักษาตำแหน่ง เช่นเดียวกับวินัย จึงต้องซ้อมวินัยในเกมรับ และทำได้ตามที่ซ้อม ส่วนการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น ก็เพื่อความเหมาะสมด้านแท็กติก
“เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เปิดเผยหลังเกมว่า ได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดจากเกมที่แพ้อินเดีย ซึ่งทุกคนมีสมาธิกับเกม เราเปลี่ยนระบบใหม่ ทุกคนลงสนาม รู้หน้าที่ของแต่ละคนว่าเล่นอย่างไร แต่สิ่งสำคัญคือต้องสู้เพื่อชัยชนะ ส่วนนัดต่อไป ก็คงเป็นนัดที่ยาก แต่ถ้ามีสปิริตทีมที่ดี ก็สามารถเข้ารอบได้
“โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ อดีตหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยชุด 19 ปี กล่าวว่า ต้อง ต้องชมโต่ย และโค้ชโชค ที่นอกจากจะคุ้นเคยกับนักเตะดีแล้ว ยังปรับมาเล่นระบบ 3-5-2 เน้นรับและโต้กลับเป็นหลัก ที่เห็นเปลี่ยนแปลงชัดเจนคือ การเคลื่อนที่ เล่นเกมรับดี เกมรุกอาจจะไม่ชัดมาก แต่ได้ผล ชนาธิปทำเกมได้ ทำให้เกมรุกดูหลากหลาย ส่วนเกมหน้ากับยูเออี ต้องเน้นวางแผนการเล่นให้ละเอียด การเปลี่ยนโค้ชถือว่าก็ได้ผลการแข่งขันที่ตอบโจทย์ แต่ระยะยาว มองว่าโค้ชไทยเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ตอนนี้มีหลายคนที่จบโปรไลเซนต์แล้ว
โค้ชหรั่ง อ.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยคุมทีมชาติไทยเอเชียนคัพ 2007 กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจนคือ จิตใจของนักเตะที่มุ่งมั่นมากขึ้นโดยเฉพาะจากผลนัดแรกที่แพ้มา การจัดผู้เล่นลงตามตำแหน่งที่ถนัด แผนการเล่น 3-5-2 เกมรุก+เกมรับ มีวินัยขึ้น วิงแบ็ก “โด”-“อุ้ม” บุกได้เต็มที่ “เจ” มีอิสระมากขึ้น กองหน้าคู่ช่วยกัน การเล่นกับยูเออี ก็มีโอกาสชนะ แต่เกมรับต้องอย่าเข้าพรวด ต้องช้านิด รอจังหวะ ระวังความเป็นเจ้าภาพ และเขาจะเล่นกับเราระวังมากกว่าบาห์เรน เพราะเห็นการเล่นของเรานัดล่าสุดมาแล้ว
ไปดูตารางคะแนนกลุ่ม เอ เจ้าภาพ ยูเออี มี 4 แต้มนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม อันดับ 2 อินเดีย มี 3 แต้มเท่ากับ ทีมชาติไทย แต่ลูกได้เสียอินเดียดีกว่า ส่วนบาห์เรน อยู่อันดับสุดท้าย มี 1 คะแนน คะแนนเท่าดู H2H เงื่อนไขเข้ารอบ
1.ไทยชนะ ยูเออี เข้ารอบแน่นอน ลุ้นเป็นที่ 1 หรือ ที่ 2 กรณีอินเดียชนะบาห์เรน
2.ไทย เสมอ ยูเออี อินเดีย ชนะ เราที่ 3 ลุ้นเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมจาก 6 สาย อินเดีย เสมอ เราที่ 3 บาห์เรน พลิกชนะ อินเดีย เราจบที่ 2
3.ไทย แพ้ ยูเออี เราจบที่ 3 แน่ๆ ต้องไปลุ้นเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมจาก 6 สายแต่ไทยจะตกรอบเป็นอันดับ 4 ทันที กรณีบาห์เรนชนะอินเดีย
ทีมชาติไทย จะลงสนามนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มพบกับ ยูเออี เจ้าภาพ ในวันจันทร์ที่ 14 มกราคม เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ส่วนอินเดีย พบ บาห์เรน ในวันและเวลาเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย