ทำเนียบฯ 8 ม.ค.-นายกฯ กำชับ 4 รมต.ทำงานการเมือง อย่ากระทบการทำงานในส่วนของรัฐบาล ระบุหากว่าที่ผู้สมัครส.ส.เพื่อไทย จ.บุรีรัมย์ ไม่ทำผิดก็ไม่จับกุม ทุกอย่างทำตามกฎหมาย เผยให้ฝ่ายความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวของทุกพรรค
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความชัดเจนการทำหน้าที่ของ 4 รัฐมนตรี ระหว่างการทำงานในรัฐบาลและการทำงานทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ในการกำกับการทำงานของ 4 รัฐมนตรี มาโดยตลอด ซึ่งให้ทุกคนทำหน้าที่ในส่วนของรัฐบาลให้ดีที่สุด ส่วนการทำงานทางการเมืองนั้น ก็เป็นการทำงานนอกเวลาราชการ และมีการลาราชการทุกครั้ง ถือเป็นการลาตามสิทธิของแต่ละคน
“ผมย้ำว่าอย่าให้กระทบการทำงานในนามของรัฐบาล ส่วนจะทำงานทางการเมืองแล้วทำให้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ เพราะขณะนี้ทุกพรรคก็แข่งขันกันในเรื่องของนโนบาย อยากเตือนให้ประชาชนใช้วิจารณญาณพิจารณานโยบาย เพราะอาจทำไม่ได้ทั้งหมด และไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อ ขอให้ติดตามนโยบายของแต่ละพรรคว่า หากได้รับเลือกเข้ามาแล้ว จะสามารถทำได้อย่างที่พูดไว้หรือไม่ หากทำไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ไม่ควรไปเลือกอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการจับกุม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ ต้องดูว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ ตนได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ให้ไปดูและติดตามทุกพรรค หากไม่ทำผิด ก็ไม่จับกุม อย่าไปแบ่งข้าง หากยังทำเช่นนี้ บ้านเมืองก็ไม่สงบ ทุกอย่างขอให้ว่ากันด้วยหลักฐาน
ต่อข้อถามว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เตรียมเร่งรัดคดีที่เกี่ยวข้องกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยที่กำลังมีกระแสความนิยม นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า นิยมในสิ่งไหน นิยมความขัดแย้งอย่างนั้นหรือ และทำไมต้องสร้างกระแสในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่กล่าวกันขึ้นมาในโซเซียลมีเดีย ซึ่งไม่ทราบว่ามีหลักฐานหรือไม่ เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต้องไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นอีกเเรื่องหนึ่งที่ถูกขยายความ วนเวียนไปมา
นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับเรื่องการใช้รถประจำตำแหน่ง ที่ภายหลัง ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องมายังรัฐบาล ถึงกรณีที่มีข้าราชการนำรถส่วนกลางไปใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง ว่า ได้ออกเป็นมติ ครม.แล้ว หากใครนำรถประจำตำแหน่ง ไปใช้ส่วนตัว ถือเป็นความผิดร้ายแรง และต้องถูกลงโทษสถานหนัก ทั้งไล่ออก ปลดออก จึงขอเตือนไปยังทุกส่วนราชการด้วย.- สำนักข่าวไทย