fbpx

นายกฯ กำชับ 4 รมต.ทำงานการเมืองอย่ากระทบงานรัฐบาล

 ทำเนียบฯ 8 ม.ค.-นายกฯ กำชับ 4 รมต.ทำงานการเมือง อย่ากระทบการทำงานในส่วนของรัฐบาล ระบุหากว่าที่ผู้สมัครส.ส.เพื่อไทย จ.บุรีรัมย์ ไม่ทำผิดก็ไม่จับกุม ทุกอย่างทำตามกฎหมาย เผยให้ฝ่ายความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวของทุกพรรค 


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความชัดเจนการทำหน้าที่ของ 4 รัฐมนตรี ระหว่างการทำงานในรัฐบาลและการทำงานทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ในการกำกับการทำงานของ 4 รัฐมนตรี มาโดยตลอด ซึ่งให้ทุกคนทำหน้าที่ในส่วนของรัฐบาลให้ดีที่สุด ส่วนการทำงานทางการเมืองนั้น ก็เป็นการทำงานนอกเวลาราชการ และมีการลาราชการทุกครั้ง ถือเป็นการลาตามสิทธิของแต่ละคน 

“ผมย้ำว่าอย่าให้กระทบการทำงานในนามของรัฐบาล ส่วนจะทำงานทางการเมืองแล้วทำให้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ เพราะขณะนี้ทุกพรรคก็แข่งขันกันในเรื่องของนโนบาย อยากเตือนให้ประชาชนใช้วิจารณญาณพิจารณานโยบาย เพราะอาจทำไม่ได้ทั้งหมด และไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อ  ขอให้ติดตามนโยบายของแต่ละพรรคว่า หากได้รับเลือกเข้ามาแล้ว จะสามารถทำได้อย่างที่พูดไว้หรือไม่  หากทำไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ไม่ควรไปเลือกอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 


ส่วนกรณีที่มีการจับกุม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ ต้องดูว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ ตนได้กำชับฝ่ายความมั่นคง ให้ไปดูและติดตามทุกพรรค หากไม่ทำผิด ก็ไม่จับกุม อย่าไปแบ่งข้าง หากยังทำเช่นนี้ บ้านเมืองก็ไม่สงบ ทุกอย่างขอให้ว่ากันด้วยหลักฐาน 

ต่อข้อถามว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เตรียมเร่งรัดคดีที่เกี่ยวข้องกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยที่กำลังมีกระแสความนิยม นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า นิยมในสิ่งไหน นิยมความขัดแย้งอย่างนั้นหรือ  และทำไมต้องสร้างกระแสในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่กล่าวกันขึ้นมาในโซเซียลมีเดีย ซึ่งไม่ทราบว่ามีหลักฐานหรือไม่ เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต้องไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นอีกเเรื่องหนึ่งที่ถูกขยายความ วนเวียนไปมา 

นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับเรื่องการใช้รถประจำตำแหน่ง ที่ภายหลัง ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องมายังรัฐบาล ถึงกรณีที่มีข้าราชการนำรถส่วนกลางไปใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง ว่า ได้ออกเป็นมติ ครม.แล้ว หากใครนำรถประจำตำแหน่ง ไปใช้ส่วนตัว ถือเป็นความผิดร้ายแรง และต้องถูกลงโทษสถานหนัก ทั้งไล่ออก ปลดออก จึงขอเตือนไปยังทุกส่วนราชการด้วย.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้