กรุงเทพฯ 3 ม.ค. – กรมชลประทานคาดน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางภาคใต้ เร่งพร่องน้ำให้มีพื้นที่รองรับฝนที่จะตกหนักถึงหนักมากจากอิทธิพลของพายุปาบึก
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางในพื้นที่ภาคใต้ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนปาบึก ซึ่งได้มีการเตรียมการล่วงหน้าในการพร่องน้ำทั้งอ่างเก็บน้ำและลำน้ำต่าง ๆ ไว้แล้ว เพื่อเตรียมรับสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์รายพื้นที่ พบว่ายังมีอ่างเก็บน้ำที่มีความจำเป็นต้องมีการพร่องน้ำเพิ่ม เพื่อให้มีช่องว่างมากขึ้นไว้รองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างฯ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และขนาดกลางอีก 15 แห่ง จ.เพชรบุรี 3 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำทุ่งขาม อ่างเก็บน้ำห้วยสามเขา และอ่างเก็บน้ำห้วยสงสัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ 8 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองจะกระ อ่างเก็บน้ำคลองช่องลม อ่างเก็บน้ำคลองบึง อ่างเก็บน้ำห้วยอ่างหิน อ่างเก็บน้ำยางชุม อ่างเก็บน้ำห้วยวังเต็น อ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม และอ่างเก็บน้ำห้วยมงคล จ.สุราษฎร์ธานี 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองสวนหนัง จ.นครศรีธรรมราช 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน และอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง และ จ.กระบี่ 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองหยา
นอกจากนี้ ยังมีอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอีก 17 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และขนาดกลางอีก 16 แห่ง จ.เพชรบุรี 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านกระหร่างสาม อ่างเก็บน้ำห้วยตะแปด อ่างเก็บน้ำห้วยทราย และอ่างเก็บน้ำห้วยผาก จ.สุราษฎร์ธานี 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบางทรายนวล จ.นครศรีธรรมราช 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส และอ่างเก็บน้ำเสม็ดจวน จ.ระนอง 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น จ.กระบี่ 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเขียว และอ่างเก็บน้ำบางกำปรัด จ.ตรัง 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำ คลองท่างิ้ว และอ่างเก็บน้ำบ้านพรุเตย จ.พัทลุง 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง จ.สงขลา มี 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองจำไหร และอ่างเก็บน้ำคลองหลา และ จ.นราธิวาส อีก 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำใกล้บ้าน
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ประสานกับจังหวัดต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบูรณาการทำงานร่วมกัน ในการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อสอบถามสถานการณ์น้ำได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 หรือ www.rid.go.th และ http://wmsc.rid.go.th/.-สำนักข่าวไทย