ปารีส 2 ม.ค.- สหรัฐและอิสราเอลถอนตัวจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) อย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม หลังจากเริ่มกระบวนการมานานกว่าปี โดยให้เหตุผลว่ายูเนสโกมีอคติต่ออิสราเอล
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแจ้งต่อผู้อำนวยการยูเนสโกเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560 เรื่องจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกยูเนสโกและจะตั้งคณะสังเกตการณ์ถาวรแทน หลังจากนั้นไม่กี่วันนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลก็แจ้งตาม สหรัฐให้เหตุผลว่า เป็นเพราะยูเนสโกมีอคติต่อต้านอิสราเอลและจำเป็นต้องปฏิรูปในระดับโครงสร้าง ยูเนสโกวิจารณ์อิสราเอลที่ยึดครองเยรูซาเล็มตะวันออก กำหนดให้สถานที่ของชาวยิวเป็นสถานที่มรดกของปาเลสไตน์ และให้ปาเลสไตน์เป็นสมาชิกเต็มตัวในปี 2554 ส่วนอิสราเอลให้เหตุผลว่า ยูเนสโกกลายเป็นโรงละครไร้สาระไปแล้ว
การถอนตัวของสหรัฐและอิสราเอลไม่มีผลต่อการเงินของยูเนสโกมากนัก เพราะทั้งสองประเทศเลิกให้เงินสมทบตั้งแต่ยูเนสโกให้ปาเลสไตน์เป็นสมาชิกเต็มตัว เจ้าหน้าที่ยูเนสโกเผยว่า สหรัฐซึ่งเคยจ่ายเงินสมทบร้อยละ 22 ยังค้างชำระอยู่ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 19,375 ล้านบาท) จึงน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจถอนการเป็นสมาชิก ส่วนอิสราเอลค้างชำระอยู่ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 323 ล้านบาท) สหรัฐเคยถอนตัวจากยูเนสโกมาแล้วในปี 2527 สมัยประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน โดยอ้างว่า บริหารจัดการไม่ดี มีการทุจริต และเป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ของสหภาพโซเวียต แต่ได้กลับมาเป็นสมาชิกอีกครั้งในปี 2546.-สำนักข่าวไทย