สิงคโปร์ 19 ธ.ค.- ผลสำรวจใหม่พบว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเอเชียยังคงคาดการณ์อย่างระมัดระวังมากสำหรับไตรมาสสี่ของปีนี้ เพราะกำลังรอดูว่าสงครามการค้าจีน-สหรัฐจะมีความคืบหน้าหรือไม่
ทอมป์สันรอยเตอร์และอินเสียดสำรวจธุรกิจหลากหลายประเภทใน 11 ประเทศเอเชียแปซิฟิกระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-14 ธันวาคม ได้ดัชนีบรรยากาศธุรกิจเอเชียที่บ่งชี้ถึงความคาดหวังช่วง 6 เดือนของ 84 บริษัทว่า ดัชนีอยู่ที่ 63 จุดในไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 58 จุดในไตรมาสเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่เกือบต่ำสุดในรอบ 3 ปี แม้ดัชนีที่สูงกว่า 50 จุด บ่งชี้ถึงความคาดหวังในแง่ดี แต่นักวิชาการของอินเสียดมองว่า ดัชนีล่าสุดตอกย้ำบรรยากาศของไตรมาสก่อนที่ภาคธุรกิจยังคงเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจและความกังวลเรื่องเศรษฐกิจเติบโต และไม่แปลกใจมากนักหากจะเกิดวิกฤตขึ้นในอนาคต
ปัจจัยความเสี่ยงหลักที่ภาคธุรกิจในเอเชียกังวลยังคงเป็นเรื่องสงครามการค้าโลก เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและโทรคมนาคมที่ได้รับผลกระทบแล้วจากความต้องการในตลาดโลกซบเซาเป็นกลุ่มที่คาดการณ์ในแง่ร้ายมากที่สุด ดัชนีต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 44 จุด ธุรกิจในไต้หวันซึ่งเป็นผู้ส่งออกด้านอิเล็กทรอนิกส์สำคัญมีความคาดหวังเชิงลบมากที่สุดถึง 17 จุด ร่วงหนักจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 58 จุด เช่นเดียวกับธุรกิจในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่มีความคาดหวังในเชิงลบมากที่สุด ขณะที่ธุรกิจในฟิลิปปินส์ มาเลเซียและไทยมีความคาดหวังในเชิงบวกมากที่สุดในการสำรวจ อย่างไรก็ดี ประเทศเหล่านี้ยังคงกังวลเรื่องรับมือกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องและดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า.- สำนักข่าวไทย