กทม.18 ธ.ค.-ทีมวิจัย ม.ธรรมศาสตร์ คิดค้นผลิตภัณฑ์ยารักษาอาการภูมิ แพ้-หอบหืดจากไพล สมุนไพรดั้งเดิมของประเทศไทย ด้านองค์การเภสัชกรรมให้ทุนสนับสนุนกว่า 10 ล้าน มุ่งหวังให้คนไทยใช้ยาคุณภาพดีราคาถูกได้ ภายใน 2 ปี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงนามบันทึกความร่วมมือ(MOU) กับองค์การเภสัชกรรม(อภ.) เพื่อต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมยาสมุนไพรชนิดแคปซูลที่ได้จากไพล ซึ่งมีสรรพคุณรักษาอาการโรคภูมิแพ้และหอบหืด โดย
ศ.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืดและโรคระบบหายใจ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า นวัตกรรมยาสมุนไพรจากไพล เกิดขึ้นจากการพบผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และหอบหืดในประเทศไทยจำนวนมาก แต่ยาที่มีประสิทธิภาพกลับต้องนำเข้าจากต่างประเทศในราคาแพง ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยฯจึงริเริ่มนำจุดเด่นของสมุนไพรไทยมาผลิต เพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาในราคาถูกลงและพบว่าไพล ซึ่งมีแหล่งปลูกในไทยเพียงประเทศเดียว มีคุณสมบัติลดอาการภูมิแพ้ได้ดี จึงคิดค้นร่วมกับนักวิจัยจากหลายสถาบันและโรงพยาบาล อาทิ รพ.ศิริราช, รพ.จุฬาฯ, รพ.พระมงกุฎฯ และรพ.วชิระ รวมระยะเวลาการพัฒนายาสมุนไพรชนิดนี้ถึง 12 ปี
“การลงนามระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์การเภสัชกรรมครั้งนี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตยาสมุนไพรจากไพลให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยองค์การเภสัชฯ มอบทุนสนับสนุนต่อยอดงานวิจัยจำนวนมากกว่า10 ล้านบาทเพื่อดำเนิน 4 โครงการให้ครบสมบูรณ์ นำไปสู่การผลิตตัวยาที่คิดค้นโดยคนไทย เพื่อคนไทย รวมถึงคนทั่วโลก ได้ใช้ยาคุณภาพดี ราคาถูก จากสมุนไพรที่ทุกคนยอมรับ” ศ.พญ.อรพรรณ กล่าว
นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่าขณะนี้งานวิจัยยาสมุนไพรจากไพลได้ก้าวเข้าสู่ระยะที่3 แล้ว โดยมีการทดลองในคนไข้กลุ่มใหญ่ประมาณ 400-500 คน เพื่อสร้างความมั่นใจและนำไปสู่การขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรม การอาหารและยา(อย.) ต่อไป ซึ่งจากการทดสอบในเบื้องต้นได้ผลดีมากสามารถลดอาการภูมิแพ้ทั้งอาการคัดจมูก ไอจาม คันตา ผื่นแพ้ผิวหนัง และหอบหืด
ด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการพัฒนาพืชสมุนไพรไทยให้เป็นพืชเศรษฐกิจ สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์สมุนไพร องค์การเภสัชฯจึงกำหนดให้มียุทธศาสตร์ด้านสมุนไพร เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐโดยมุ่งเน้นการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สารสกัดสมุนไพรที่มีการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีผลการศึกษาวิจัยทางพรีคลินิกและทางคลินิกรองรับเพื่อยืนยันประสิทธิผลและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สมุนไพร สามารถมีข้อมูลขึ้นทะเบียนเป็นยาพัฒนาจากสมุนไพรแผนปัจจุบัน อีกทั้งยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้เป็นที่ยอมรับของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทั่วไป
โดยองค์การเภสัชฯ มีการพัฒนาและเตรียมความพร้อมตลอดเวลา ทั้งในด้านบุคลากร เทคโนโลยีการสกัดสารสำคัญจากสมุนไพร การควบคุมคุณภาพ ตลอดจนโรงงานผลิตยาได้การรับรองมาตรฐาน PIC/S GMP
องค์การเภสัชฯจะรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตยาแคปซูลสารสกัดไพลในการรักษาโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ และโรคหอบหืด จาก ม.ธรรมศาสตร์ และจะขยายกำลังการผลิตสู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรมภายใต้มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP) เพื่อนำไปใช้ในการ ศึกษาทางคลินิก โดยองค์การเภสัชฯพร้อมจะให้การสนับสนุนทุนการศึกษาวิจัยทางคลินิกแบบ สหสถาบันให้กับ ม.ธรรมศาสตร์ และความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถพัฒนาต่อยอดผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยให้สามารถขึ้นทะเบียนเป็นยาพัฒนาจากสมุนไพรแผนปัจจุบัน และผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของแพทย์และประชาชนทั่วไปในการรักษาโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ และในอนาคตจะศึกษาวิจัยทางคลินิกเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคหอบหืดต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันการคิดค้นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่ได้จากไพลมีการจดสิทธิ บัตรยาเรียบร้อยแล้ว นับเป็นยาตัวแรกและตัวเดียวที่ใช้สมุนไพรเป็นตัวยาหลักไม่ใช่ตัวยาผสม เชื่อว่าอีกไม่เกิน2 ปีจะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ และส่งออกไปต่างประเทศในอนาคต .-สำนักข่าวไทย