ขอนแก่น 18 ธ.ค.- ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง “เจ๊ยุ” เจ้าของเขียงเนื้อ บาดเจ็บสาหัส ขโมยเงินสด 450,000 บาท และทองคำหนัก 25 บาท หลบหนีไป เมื่อ 3 วันก่อน ตำรวจตามจับกุมผู้ต้องหาเป็นน้องชายสามี ยืนยันจับไม่ผิดตัว
ทีมข่าวสำนักข่าวไทย อสมท ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนางยุภาภร บุราญรัตน์ อายุ 42 ปี หรือ เจ๊ยุ เจ้าของเขียงเนื้อ บาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านเลขที่ 162 บ้านโนนขา ตำบลหัวหนอง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ขโมยเงินสด 450,000 บาท และทองคำหนัก น้ำหนัก 25 บาท หลบหนีไป ชุดสืบสวนตำรวจสืบสวนภาค 4 และตำรวจสืบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ ลงพื้นที่สอบพยานปากสำคัญเป็นเด็กชายอายุ 4 ขวบ ซึ่งอยู่กับเจ๊ยุ วันเกิดเหตุ ให้การว่าคนร้ายมี 2 คน หนึ่งในนั้น คือ นายวรวุฒิ ราญทิพย์ อายุ 44 ปี น้องชายนายวรวิทย์ สามีของเจ๊ยุ และชี้รูปภาพอย่างถูกต้อง ตำรวจจึงขอหมายศาลเข้าจับกุมตัว เบื้องต้นให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าวันเกิดเหตุอยู่บ้านพักอำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าเทศบาลตำบลชลบท อำเภอชนบท เพื่อหาหลักฐานว่า วันเกิดเหตุนายนายวรวุฒิอยู่บ้านพัก หรือขับรถผ่านช่วงเวลาเกิดเหตุหรือไม่ พบว่ามีรถต้องสงสัยผ่าน 8 คัน ส่วนคนร้ายอีกคนคาดว่าจะรู้จักกับเจ๊ยุเป็นอย่างดี เนื่องจากใช้ผ้าปิดหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี
ด้านพลตำรวจตรีพรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ยืนยันกับสำนักข่าวไทยว่า การขอหมายจับนายวรวุฒิ นั้น ทางพนักงานสอบสวนรวมถึงเจ้าหน้าที่อัยการศาลจังหวัดพล นักจิตวิทยา รวมทั้งพนักงานสอบสวน ร่วมกันสอบเด็กชายวัย 4 ขวบ ที่เป็นพยานปากสำคัญ ยืนยันผู้ก่อเหตุชื่อลุงวุฒิ หรือนายวรวุฒิ ขณะนี้รอผลนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบสำนวน ยืนยันจับคนร้ายไม่ผิดตัวอย่างแน่นอน
ขณะที่ตำรวจภูธรบ้านไผ่ ขอให้ร้านทองสังเกตคนที่นำทองไปจำนำหรือจำหน่าย หากข้อต่อทองมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ หรือสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 10 บาท จะมีชื่อภาษาจีนว่า ซินเจี้ยเซียง ส่วนสร้อย ข้อมือน้ำหนัก 5 บาท มีชื่อว่า เจี๊ยบเซงเฮง ให้รีบแจ้งตำรวจทันที เพราะเป็นทองที่คนร้ายขโมยไปจากตัวเจ๊ยุ.-สำนักข่าวไทย