กทม. 9 ธ.ค. – เลขาธิการ กกต.เตือนพรรคการเมืองอย่าลักไก่หาเสียง ผิดกฎหมาย หลัง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ใช้บังคับ แม้ยังไม่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง มีสิทธิถูกร้องได้ ชี้ พปชร.จัดระดมทุนได้หาก คสช.ปลดล็อคแล้ว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า แม้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะกำหนดเรื่องการคิดค่าใช้จ่าย เรื่องการหาเสียงหลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.แล้วและคาดว่าจะมีพ.ร.ฎ. เลือกตั้งในวันที่ 2 มกราคม 2562 แต่ตามมาตรา 22 ของ พ.ร.ป. กกต.ก็กำหนดให้ กกต.ต้องสอดส่อง สืบสวน ไต่สวนหากพบการกระทำที่อาจก่อให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลา ในระหว่างที่มี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นหลังวันที่ 11 ธันวาคมนี้ที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ ผู้ที่จะสมัครฯหรือพรรคการเมือง ก็ไม่ควรกระทำการใดๆที่ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะอาจเป็นเหตุให้มีการร้องเรียนให้ไต่สวนได้
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวว่ากฎหมาย ได้ให้ กกต. กำหนดและสนับสนุนเกี่ยวกับการหาเสียง ซึ่งขณะนี้สำนักงาน กกต.ได้ยกร่างระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งในเรื่อง การจัดเวลาหาเสียงออกอากาศทางโทรทัศน์ให้พรรคที่สมัครโดยเท่าเทียมกัน การจัดดีเบต ให้พรรคประชันนโยบายทางโทรทัศน์และแพร่ทาง โซเชียลมีเดีย ซึ่งทางสำนักงานฯ เชิญพรรคการเมืองประชุม ในวันที่ 19 ธันวาคม เพื่อขอรับฟังความคิดเห็น ก่อนจะปรับปรุงร่างระเบียบ และเสนอต่อที่ประชุม กกต.พิจารณาให้ความเห็นชอบและประกาศใช้ หรือการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับผู้สมัครและนโยบายพรรคส่งถึงบ้านในแต่ละเขตเลือกตั้ง การจัดแอปพลิเคชั่นฉลาดเลือก ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้สมัคร นโยบายพรรคการเมืองให้ประชาชนสามารถเข้าไปศึกษา การติดรายละเอียดผู้สมัครและพรรค ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งก่อนประชาเข้าไปใช้สิทธิ จึงอยากให้ผู้ที่จะสมัครและพรรคการเมืองปฎิบัติตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาเรื่องการถูกร้องเรียนตามมา
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่ากรณีที่พรรคพลังประชารัฐจะจัดระดมทุนวันที่ 19 ธันวาคม ก็ต้องรอดูว่าหลังวันที่ 11 ธันวาคม ที่ คสช.ประกาศว่าจะยกเลิกคำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองนั้น จะปลดล็อกให้พรรคทำกิจกรรมทางการเมืองตามที่ พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนดได้แค่ไหน หากทำได้ทั้งหมด ทุกพรรคก็สามารถดำเนินการได้ แต่การบริจาคก็ต้องไม่เกินรายละ 10 ล้านบาทต่อคนต่อปี ตามที่กฎหมายกำหนดด้วย.-สำนักข่าวไทย