ปักกิ่ง 7 ธ.ค.- ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เพราะเงินหยวนแข็งค่าผิดคาด
ธนาคารกลางจีนแถลงวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้น 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 295,385 ล้านบาท) เป็น 3.062 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 100.5 ล้านล้านบาท) ในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นครั้งแรกนับจากเดือนกรกฎาคม และเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมที่ลดลงถึง 33,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.11 ล้านล้านบาท) เป็นเดือนที่ธนาคารกลางจีนต้องขายเงินหยวนเป็นเดือนที่สามติดต่อกันเพื่ออุ้มเงินหยวนที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนพฤศจิกายนยังเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลง 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 524,997 ล้านบาท) เหลือ 3.037 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 99.65 ล้านล้านบาท)
สำนักงานปริวรรตเงินตราจีนชี้แจงว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเพราะอัตราแลกเปลี่ยนและราคาสินทรัพย์โลกมีการเปลี่ยนแปลง เงินหยวนจีนถูกหลายปัจจัยกดดันในปีนี้ทั้งเรื่องดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า สงครามการค้าจีน-สหรัฐทวีความรุนแรง ไปจนถึงเศรษฐกิจในประเทศชะลอการเติบโต ทำให้ทางการจีนต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังมากขึ้น อย่างไรก็ดี เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเงินหยวนกลับแข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม เริ่มจากธนาคารของรัฐแทรกแซง และตามด้วยข่าวดีว่าผู้นำสหรัฐและจีนจะหารือนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (จี 20) ในสิ้นเดือนนั้น.-สำนักข่าวไทย