ภูมิภาค 1 ธ.ค.- ประชาชนปลาบปลื้มเข้ารับเสื้อพระราชทาน “BIKE อุ่นไอรัก” ในแต่ละจังหวัดเริ่มมอบเป็นวันแรก เตรียมร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานพร้อมกันทั่วประเทศ 9 ธ.ค.นี้
เช้าวันนี้ (1 ธ.ค.) ที่หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานประกอบพิธีรับมอบเสื้อยืดพระราชทาน เพื่อมอบให้กับประชาชนที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ Bike อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ที่จะมีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคมนี้ โดยจังหวัดอุบลราชธานีมียอดลงทะเบียนทั้ง 25 อำเภอ จำนวน 15,280 คน
นอกจากนี้ ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีเนืองแน่นไปด้วยประชาชนต่างปลาบปลื้มมารอรับเสื้อพระราชทาน ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีมีประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์และลงทะเบียนที่ศาลากลางจังหวัดไว้กว่า 2,000 คน โดยกำหนดให้รับไปถึงวันที่ 2 ธ.ค.
ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดมหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมข้าราชการและประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีรับมอบเสื้อพระราชทานในกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ Bike อุ่นไอรัก โดยมีผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 3,842 คน ขณะที่เส้นทางการปั่นกำหนดไว้ 3 เส้นทาง คือ ระยะทาง 5.75 กิโลเมตร ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร และระยะทาง 29.4 กิโลเมตร
ส่วนศาลากลางจังหวัดเลย จัดพิธีมอบเสื้อยืดพระราชทานเช่นเดียวกัน มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 6,000 คน ทยอยเข้ารับเสื้อตามลำดับถึงวันที่ 2 ธ.ค. ด้านนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า เส้นทางปั่นจักรยานมีความพร้อมแล้วอย่างเต็มที่ เป็นเส้นทางระหว่างอำเภอเมืองไปวังสะพุง แม้บางช่วงจะซ่อมสะพาน แต่ได้ประสานแขวงการทางทำผิวจราจรอำนวยความสะดวกไว้เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ จ.สระบุรี นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธีมอบเสื้อพระราชทานกิจกรรมปั่นจักรยาน BIKE อุ่นไอรัก ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัด ซึ่งมีประชาชนลงทะเบียนร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จำนวน 5,163 คน สำหรับเส้นทางการปั่น 29 กม. เริ่มจากลานหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี (หลังเก่า) ปั่นไปตามถนนพหลโยธิน เข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวร ในพื้นที่กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ผ่านพื้นที่กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ จากนั้นมุ่งหน้าสู่วัดพระพุทธฉาย นมัสการรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ขากลับเดินทางตามเส้นทางสายรองในพื้นที่กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ และกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ พร้อมร่วมทำกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติปล่อยปลาและปลูกต้นไม้ และกลับสู่ศาลากลางจังหวัดสระบุรี
