ทำเนียบฯ 20 พ.ย.-นายกฯ เร่งช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางและปาล์มน้ำมัน ยืนยันไม่ใช่การแจกเงิน เพื่อหาเสียงทางการเมือง ขอเกษตรกรอย่าออกมาชุมนุมประท้วง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้หารือมาตรการการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหา ทั้งเรื่องยางพาราและปาล์มน้ำมันว่าในส่วนมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ รัฐจะรับซื้อปาล์มน้ำมันในกิโลกรัมละ 18 บาท ประมาณ 1.6 แสนตัน เพื่อนำไปผลิตไฟฟ้า โดยจะรับซื้อจากโรงสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อให้เกษตรกรได้ประโยชน์โดยตรง ส่วนมาตรการระยะยาว จะเพิ่มการนำปาล์มน้ำมันมาเป็นส่วนผสมของน้ำมันบี 20 โดยมีเป้าหมายนำมาเป็นส่วนผสม ปีละ 5 แสนตัน
“การไปรับซื้อผลผลิตของเกษตรกร ที่มีราคาสูงกว่าท้องตลาด ส่งผลทำให้ต้นทุนสูงขึ้นด้วย เช่น การนำปาล์มน้ำมันไปผลิตกระแสไฟฟ้า ก็จะทำให้ต้นทุนไฟฟ้าสูง จึงทำให้รัฐบาลต้องใช้เงินไปดูแลในส่วนนี้ด้วย จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการแก้ไขปัญหาอาจดูเหมือนง่าย แต่จำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรการที่ชัดเจนให้เห็นว่าเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนเท่านั้น ไม่สามารถจะช่วยเหลือไปได้ตลอด ซึ่งต้องคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ในส่วนการแก้ไขปัญราคายาง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมีผลผลิตยางถึง 4.6 ล้านตัน แต่มีการใช้ยางในประเทศ 4 แสนตัน แต่รัฐบาลได้เร่งการนำผลผลิตมาใช้ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 6 แสนตัน แต่ยังเหลือผลผลิตทั้งหมดอีก 4 ล้านตัน ซึ่งถือว่าไทยมีผลผลิตปริมาณยางที่มากที่สุดในโลก ดังนั้นเรื่องราคาก็ขึ้นอยู่กับปริมาณด้วย รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มแข็ง ทั้งในเรื่องการลดพื้นที่ปลูกยาง และการแก้ไขปัญหาการปลูกยางในพื้นที่บุกรุกของรัฐบาล ยังมีปัญหากับประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งรัฐบาลจะดูแลในส่วนที่ถูกต้องตามกฎหมายก่อน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้มีการกำหนดมาตรการการช่วยเหลือ โดยช่วยเหลือไม่เกิน 15 ไร่ เพื่อเพิ่มการใช้ยางในประเทศ และมาตรการทั้งหมด ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการยางธรรมชาติก่อน
“ขอร้องกลุ่มเกษตรกรอย่าออกมารวมตัวประท้วง ซึ่งรัฐบาลพยายามดูแลทุกกลุ่ม และอยากสร้างความเข้าใจว่าการรที่รัฐบาลให้เงินช่วยเหลือเป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว แต่สิ่งสำคัญ เกษตรกรต้องรู้จักปรับเปลี่ยนตัวเอง ให้เข้าใจระบบการค้าการลงทุนในปัจจุบัน และต้องเข้าใจถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกที่หลายประเทศประสบปัญหา แต่หากมองมาที่ประเทศไทย ถือว่าภาพรวมเศรษฐกิจยังดีอยู่ แต่การแก้ปัญหา รัฐบาลพยายามดูภาพรวมทั้งหมด จะช่วยเพียงเฉพาะกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไม่ได้ และพยายามสร้างโอกาสและความเท่าเทียมให้กับเกษตกร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน มีการบูรณาการการทำงาน ในการสกัดการลักลอบนำสินค้าเกษตรเข้ามาในประเทศ นอกจากนี้รัฐบาลเตรียมทยอยออกมาตรการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย โดยเฉพาะการออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงการดูแลผู้สูงอายุ ค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถออกมาตรการได้ในคราวเดียวกัน เพราะต้องคำนึงถึงระเบียบและภาระการใช้จ่ายงบประมาณ ที่ต้องอยู่ในกรอบวงเงินที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น นอกจากนี้เตรียมออกโครงการบ้านล้านหลัง ที่ประชาชนต้องมีรายได้เพียงพอในการผ่อนบ้าน
“วันนี้ไม่อยากให้มองว่ารัฐบาลนี้แจกเพื่อการเมือง เพราะทุกมาตรการกว่าจะออกมาได้ ต้องดูกฎหมาย ดูวิธีการ ดูงบประมาณที่มีอยู่ จึงทยอยออกมาตามลำดับ ซึ่งเราพยายามเร่งสปีดให้เต็มที่ และมาออกได้ในช่วงนี้ อย่ามากล่าวหาว่าเป็นเรื่องการเมืองไปซะทั้งหมด มันเป็นเรื่องการทำงานต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลใหม่มา ก็น่าจะทำต่อเนื่อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงออกมาชี้แจงมาตรการให้การช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความชัดเจนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ.-สำนักข่าวไทย