รัฐสภา 15 พ.ย.- กรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สนช. ยืนยัน การแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.กีฬามวย ไม่ได้ห้ามเด็กอายุ 12-15 ปี ชกมวย แต่เพื่อยกระดับ และปกป้องสวัสดิภาพเยาวชน
นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการการศึกษา และการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชี้แจงถึงการเตรียมแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กีฬามวย ว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานกีฬามวย และปกป้องสวัสดิภาพเยาวชนไม่ให้ถูกละเมิด และเรียนรู้เรื่องมวยไทยอย่างเป็นกระบวนการ ด้วยการใช้หลักวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย และการใส่เครื่องป้องกันเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเป็นไปตาม พ.ร.บ.การใช้แรงงานเด็ก ไม่ได้ห้ามเด็กชกมวย แต่ห้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกมวยอาชีพ
“ในการร่างกฎหมายดังกล่าว ในชั้นพิจารณาของ สนช. ผู้แทนค่ายมวย หรือผู้เกี่ยวข้องสามารถเข้ามาร่วมพิจารณาเป็นกรรมาธิการวิสามัญได้ ผ่านโควตาของรัฐบาล หรือ สนช. และในการพิจารณาของ สนช. ยังสามารถปรับปรุงแก้ไขได้” นายตวง กล่าว
ด้าน พล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ สนช. ในฐานะผู้เสนอแก้ไขร่างกฎหมาย ชี้แจง 6 ประเด็นในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว อาทิ ที่มาของคณะกรรมการกีฬามวยที่จะต้องมาจากการเลือกตั้งจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง, การขึ้นทะเบียนนักมวย ทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ตัวเอง และได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสนับสนุนกีฬาแห่งชาติ การพัฒนาผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสิน ให้เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน การกำหนดมาตรฐานของเวทีมวย ทั้งเวทีถาวร และเวทีชั่วคราว และการร้องทุกข์
พล.อ.อดุลยเดช ยังกล่าวถึง นักมวยเด็ก ว่า ในพระราชบัญญัติเดิม กำหนดห้ามเด็กต่ำกว่า 15 ปี ขึ้นชกมวย และจะต้องมีเครื่องป้องกัน และจะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกีฬามวยก่อน แต่ร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ได้กำหนดห้ามเด็กต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกมวยแบบอาชีพ ส่วนเด็กอายุ 12 – 15 ปี สามารถขึ้นชกอาชีพได้ แต่ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น เฮดการ์ด และได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกีฬามวย
“ยืนยันว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ไม่ได้กีดกันไม่ให้เยาวชนชกมวย แต่ต้องการให้เยาวชนได้รับการฝึกฝนตามมาตรฐานสากล ให้มีคุณภาพ และอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเปลี่ยนความคิดจากที่ว่าจะเก่งได้ ก็ต้องฝึกแต่เด็ก ไปเป็นการเรียนรู้ และเข้าใจตามหลักร่างกาย และแม่ไม้มวยไทย” พล.อ.อดุลยเดช กล่าว .- สำนักข่าวไทย