กรุงเทพฯ 9 พ.ย.- “สมชัย”เสนอ 3 แนวทาง ชะลอ-แก้กฎหมาย- ม.44 แก้ปัญหา แสดงทรัพย์สิน นายกฯ- กก.สภามหาวิทยาลัย ก่อนกรรมการสภาฯ แห่ลาออก ระบบการศึกษาหยุดชะงัก
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร รักษาการแทนคณบดี สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว กล่าวถึงปัญหาจากประกาศ ป.ป.ช.ที่ออกมาสร้างความปั่นป่วนให้แก่สภามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ว่า กรรมการสภาที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกที่เป็นภาคเอกชน ข้าราชการเกษียณ นักวิชาการอาวุโส คงทยอยการลาออก เพราะแม้อยากจะช่วยมหาวิทยาลัย และไม่มีทรัพย์สินมากมายที่จงใจจะปกปิด แต่กฎระเบียบที่เป็นภาระถึงขนาดต้องไปตามแจ้งทรัพย์สินทุกรายการของคู่สมรสไม่ว่าจะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนและประกาศต่อสาธารณะ ซึ่งในผู้ที่ไม่มีคนช่วยจัดเก็บและกรอกข้อมูล และหากไม่ครบ อาจโดนคดีอาญาเรื่องจงใจปกปิดทรัพย์สิน คงจะเป็นการเสียสละเกินกำลัง
นายสมชัย กล่าวว่า ป.ป.ช. คงอยู่ในภาวะไม่ทำไม่ได้ เพราะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ป.ป.ช. ที่ระบุให้ ป.ป.ช.มีหน้าที่ออกประกาศ ระบุตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน อีกทั้งมีแนวคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่ชี้ไว้ชัดเจนแล้วว่า กรรมการสภามหาวิทยาลัย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เนื่องจากมีอำนาจในทางปกครอง ให้คุณให้โทษต่อบุคคลในมหาวิทยาลัย และอำนาจในการอนุมัติงบประมาณ
นายสมชัย กล่าวว่า หากเรื่องนี้จบลงด้วยการลาออกของกรรมการสภามหาวิทยาลัย สิ่งที่เกิดขึ้นกับวงการศึกษาไทยในระยะสั้น คือ การหยุดชะงักของการบริหารงานมหาวิทยาลัยทั้งประเทศ เนื่องจากไม่สามารถประชุมสภามหาวิทยาลัยได้อย่างน้อย 2-3 เดือน จนกว่าจะสรรหาคนใหม่มาทดแทน เรื่องหลักสูตร เรื่องขออนุมัติปริญญา เรื่องขออนุมัติใช้งบประมาณ เรื่องการขอจ้างอาจารย์ในกรณีพิเศษ เรื่องการกำกับดูแลการบริหารงานของอธิการบดี คงค้างอยู่ในวาระจนกว่าจะสามารถประชุมสภามหาวิทยาลัยได้
นายสมชัย กล่าวว่า ในระยะยาวแม้หาคนมาเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่พร้อมจะแจ้งบัญชีทรัพย์สินได้ แต่โอกาสที่คนระดับมันสมอง คนที่เป็นปราชญ์ชาวบ้านปราชญ์แผ่นดิน คนที่ประสบความสำเร็จในทางบริหาร ในทางธุรกิจ จำนวนหนึ่ง คงขอโอกาสไปสนับสนุนมหาวิทยาลัยในทางอื่น ซึ่งหมายความว่า วงการศึกษาทั้งประเทศคงอยู่ในภาวะการกำกับดูแลที่ขาดมุมมองที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ไป
นายสมชัย กล่าวว่า ทางออกของการแก้ไขตนเห็นว่ามี 3 ทาง คือ การชะลอการใช้ประกาศ จากที่จะมีผลตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2561 ออกไปอีกระยะหนึ่ง อาจจะ 3-6 เดือน ช่วยได้ในการบรรเทาอาการตื่นตระหนก การลาออกแบบกระทันหัน จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถประชุมสภามหาวิทยาลัยในช่วงนี้ได้ สามารถทำให้กรรมการสภาจำนวนหนึ่งมีเวลาในการตระเตรียมเอกสาร และประเมินความพร้อมของตนว่าจะลาออกหรือไม่ ในขณะที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ก็สามารถเตรียมทาบทามบุคคลอย่างไม่เป็นทางการมาเป็นกรรมการสภา เพื่อให้กระบวนการสรรหาคนใหม่ หลังจากการลาออกมีช่องว่างของเวลาน้อยที่สุด ในกรณีนี้สามารถแก้ปัญหาระยะสั้นได้ แต่ต้องประเมินถึงผลกระทบระยะยาว
แนวทางที่ 2 การแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับนิยามคำว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” และ “ผู้บริหารระดับสูง” ว่ามีความหมายครอบคลุมหรือไม่ครอบคลุมยังตำแหน่งลักษณะใดบ้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ฝ่ายคณะรัฐมนตรีในฐานะผู้ใช้อำนาจบริหารต้องปรึกษาหารือกับ ป.ป.ช. เพื่อให้ ป.ป.ช.เสนอเรื่องผ่าน ครม.นำเข้าสภานิติบัญญัติ ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมาย หลังจากนั้น ป.ป.ช. จึงออกประกาศแก้ไขประกาศ กระบวนการดังกล่าวน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งอาจไม่ทันในรัฐบาลนี้ และกว่าจะดำเนินการได้ กรรมการสภาคงลาออกทั้งประเทศแล้ว
และแนวทางที่ 3 การใช้อำนาจพิเศษ ม. 44 ของ คสช. ในการประกาศให้ยกเว้นการบังคับใช้ประกาศของ ป.ป.ช. ในตำแหน่งบางตำแหน่ง ซึ่งสามารถทำได้เลย แต่ต้องทำก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ประกาศ ป.ป.ช. มีผลใช้บังคับ จะช่วยยุติปัญหาดังกล่าวได้ แต่ต้องยอมให้สังคมวิพากย์วิจารณ์ว่า ร่างกฎหมายไม่รอบคอบจนเป็นปัญหา ทำให้ต้องใช้อำนาจพิเศษอยู่ร่ำไป-สำนักข่าวไทย