เชียงใหม่ 3 พ.ย.- ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่นำทีมชี้แจงข้อสงสัยชาวเน็ตแพนด้า “หลินฮุ่ย” ฟันสึกจากกินไผ่ ยืนยันไม่ได้ขาดการดูแล แต่พบมาก่อนแล้วตั้งแต่เล็ก มีผู้เชี่ยวชาญทันตกรรมตรวจทุกระยะ และให้กินไผ่คุณภาพดี
วันนี้ (3 พ.ย.) นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมคณะผู้บริหาร ทีมวิจัยและสัตวแพทย์ แถลงข้อเท็จจริงกรณีแฟนคลับแพนด้าโพสต์ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพฟันของแพนด้า “หลินฮุ่ย” จากการกินอาหารใบไผ่ ทำให้ฟันสึกกร่อนว่า ฟันของหลินฮุ่ยสึกกร่อนจริง โดยฟันเขี้ยวล่างเจริญไม่สมบูรณ์ ซึ่งตรวจพบมาตั้งแต่ปี 2546 แล้ว และสวนสัตว์ได้ประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเข้ามาตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง ผลการตรวจพบว่าฟันที่สึกเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพตามธรรมชาติของฟันและอายุขัยทั่วไป ไม่ได้เกิดจากชนิดอาหารหรือการดูแลไม่ดี โดยฟันที่ใช้บดเคี้ยวยังปกติ ไม่เป็นปัญหาต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ ของแพนด้า อีกทั้งมีการตรวจเป็นระยะ
นายวุฒิชัย ยืนยันด้วยว่า ไผ่ที่นำมาให้แพนด้ากินเป็นไผ่คุณภาพดี โดย Mr. ถัง ชุน เซียง ผู้เชี่ยวชาญจีน แนะนำไผ่ตงกับไผ่บงหวานของไทยมีเนื้อเยื่ออ่อนกว่ามาเสริมแทนไผ่ชนิดที่กินปกติ
ด้านสัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ จันทรังษี ทีมสัตวแพทย์ดูแลหลินฮุ่ยตั้งแต่เล็ก กล่าวเสริมว่า ภายใต้โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ทีมสัตวแพทย์พบว่าฟันเขี้ยวล่างมีการเจริญไม่สมบูรณ์ คือ เนื้อฟันด้านนอกที่ครอบเนื้อฟันชั้นในไม่ครอบคลุมทั้งหมดตั้งแต่มาอยู่เมื่ออายุ 2 ขวบ สวนสัตว์เชียงใหม่มีความห่วงใยมาตลอดได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเข้ามาตรวจอย่างต่อเนื่อง ผลการตรวจโดย รศ.ทพ.ดร.ปฐวี คงขุนเทียน จากศูนย์ความเป็นเลิศทางทันตกรรมรากเทียม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าหลินฮุ่ยมีลักษณะฟันที่สึก แต่ยังไม่ถึงโพรงประสาทฟัน และการตรวจติดตามพบว่ามีสุขภาพฟันที่ดี ยังไม่ต้องรักษาฟันแต่อย่างใด ดังนั้น การสึกของฟันหลินฮุ่ยนั้น ไม่ได้เกิดจากชนิดอาหาร หรือขาดการดูแล เมื่อมีข้อสงสัยสวนสัตว์ก็พร้อมชี้แจงให้เข้าใจตามที่เป็นห่วงกัน ที่สำคัญการทำงานวิจัยมีการประสานกับผู้เชี่ยวชาญจีนต่อเนื่องและทราบเรื่องสุขภาพฟันหลินฮุ่ยอยู่แล้ว พร้อมคำแนะนำ ซึ่งยังชื่นชมทีมวิจัยไทยในหลายด้านที่ดูแลแพนด้าอย่างดี
สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ กล่าวว่า แพนด้า “ช่วงช่วง” เพศผู้ และ “หลินฮุ่ย” เพศเมีย เป็นแพนด้าทูตสันถวไมตรีไทย-จีน โดยสวนสัตว์เชียงใหม่ได้รับมาอยู่ในความดูแลตั้งแต่ปี 2546 ต่อมาปี 2552 คณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทยได้ผสมเทียมหลินฮุ่ยประสบความสำเร็จ ได้แพนด้าน้อย “หลินปิง” เป็นขวัญใจชาวไทยอีกตัวหนึ่ง และปี 2556 องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ส่งหลินปิงให้กลับสาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบันช่วงช่วง และหลินฮุ่ย มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงปกติ และหลินฮุ่ยเตรียมลุ้นทายาทในฤดูผสมพันธุ์เร็ว ๆ นี้ และไม่ได้แก่เกินไป เพราะจากข้อมูลทางวิจัยพบว่าแพนด้าอายุมากที่สุดตั้งท้องและมีทายาทคืออายุ 30 ปี ดังนั้น หลินฮุ่ย ก็ยังมีโอกาสได้ทายาทรุ่นต่อไป
“ได้ปล่อยหมีแพนด้าทั้งสองในส่วนจัดแสดงที่ปรับปรุงใหม่ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มการส่งเสริมพฤติกรรมให้มีความหลากหลายมากขึ้น และเร็วๆนี้ก็จะเปิดสวนหลังบ้านรับลมหนาวเพื่อให้สุขภาพดีทั้งกายและใจที่ทำปกติทุกๆฤดูหนาวที่จะใกล้เคียงกับธรรมชาติของแพนด้าที่สุด สวนสัตว์เชียงใหม่ขอบคุณทุกความห่วงใยของแฟนคลับและทุกคน ที่มีให้กับแพนด้า โดยสวนสัตว์เองก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพสัตว์ทุกตัวที่อยู่ในการดูแลอยู่ตลอดเวลา” สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์”.-สำนักข่าวไทย