อ่างทอง 15 ต.ค.-ชายวัย 69 ปี รับงานขุดจอมปลวกสูงกว่า 2.5 เมตร ก่อนถล่มทับดับ ด้านญาติเผยดูจากที่เกิดเหตุแล้วมีร่องรอยการขุดเฉพาะด้านล่าง อาจทำให้จอมปลวกด้านบนที่มีน้ำหนักมากพังลงมา ขณะที่เจ้าของบ้านผวาไม่กล้าขุดทิ้งอีก เกรงอาถรรพ์
สภาพจอมปลวกขนาดใหญ่สูงกว่า 2.5 เมตร ที่ขึ้นอยู่กับกำแพงบ้านในหมู่ที่ 6 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของนางประยูร ปทุมวัน อายุ 68 ปี มีสภาพพังทลายลงมาครึ่งหนึ่งของจอมปลวกทั้งหมด และมีจอบ เสียม รวมถึงรองเท้าถูกจอมปลวกทับอยู่ โดยเป็นส่วนที่พังลงมาทับร่างของนายบุญมี รัตนเจริญชัย อายุ 69 ปี ซึ่งมารับจ้างนางประยูร ขุดจอมปลวกดังกล่าวออกจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุผู้ที่อยู่อาศัยในบ้าน ต่างช่วยกันนำร่างของนายบุญมี ออกจากจอมปลวก ก่อนประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ไชโย แต่นายบุญมี เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยลูกหลานไม่ยอมให้ขุดต่อแล้ว เนื่องจากเกรงกระเกิดอันตรายอีก
นางประยูร เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้ว่าจ้างนายสุเทพ เพชรุจิ หรือ “ลุงเทพ” กับนายบุญมี ให้ขุดจอมปลวกออก เนื่องจากจอมปลวกมีขนาดสูงใหญ่ จนดึงกำแพงเป็นช่วงโหว่ ทำให้แมวที่เลี้ยงไว้วิ่งออกไปเข้าบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งก่อนขุดทั้งตนเองและนายบุญมี รวมถึงนายสุทพ ทำพิธีจุดธูปขอขมาตามความเชื่อ แต่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงขณะที่ตนกำลังเดินเอาลูกชิ้นและน้ำมาให้ทั้ง 2 คน ก็ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ จึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่าจอมปลวกพังลงมาทับร่างของลุงบุญมีไว้ ส่วนลุงสุเทพ ไปปัสสาวะอยู่ข้างรั้วอีกแถบหนึ่ง จึงรีบตะโกนเรียกทั้งคนในบ้านและลุงสุเทพ ให้มาช่วยกันนำร่างของลุงบุญมีออกมา และให้กู้ภัยซึ่งอยู่ใกล้บ้านนำส่งโรงพยาบาล ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก แต่ท้ายสุดก็เสียชีวิต
ขณะที่ญาติของลุงบุญมี เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งกลับมาจาก จ.จันทบุรี และปกติลุงบุญมี จะรับจ้างทำงานทั่วไปในหมู่บ้านกับลุงสุเทพ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายจนถึงกับชีวิต แต่ดูจากที่เกิดเหตุแล้วมีร่องรอยการขุดเฉพาะด้านล่าง จึงอาจทำให้จอมปลวกด้านบนที่มีน้ำหนักมากพังลงมาทับร่างของลุงบุญมี โดยเจ้าหน้าที่ได้นำศพลุงบุญมี ส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อชันสูตรต่อไป.-สำนักข่าวไทย