ซิดนีย์ 3 ต.ค.- รัฐบาลออสเตรเลียจะยกเลิกภาษีผ้าอนามัยแบบสอดหลังจากเก็บมาเกือบ 20 ปี ทำให้ถูกมองว่าเป็นความพยายามเรียกคะแนนเสียงจากสตรีก่อนที่จะต้องมีการเลือกตั้งระดับประเทศภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
สินค้าในออสเตรเลียส่วนใหญ่มีภาษีสินค้าและบริการที่ร้อยละ 10 รวมไปถึงผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสตรี แต่ก็มีสินค้าบางอย่างที่ได้รับการยกเว้น เช่น ถุงยางอนามัย ผลิตภัณฑ์กันแดด นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังแถลงวันนี้ว่า รัฐบาลจะยกเลิกภาษีผ้าอนามัยแบบสอดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้าเพราะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว นางเคลลี โอดวายเออร์ รัฐมนตรีกิจการสตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีมากที่ทุกคนพร้อมใจกันยกเลิกภาษีที่ไม่เป็นธรรม เพราะจะเป็นประโยชน์กับสตรีออสเตรเลียหลายล้านคน
แคนาดายกเลิกภาษีผ้าอนามัยแบบสอดไปเมื่อปี 2558 ตามที่มีคนลงชื่อในหนังสือร้องเรียนกว่า 70,000 ชื่อ ส่วนอังกฤษจะยกเลิกในปี 2565 ปีเตอร์ เฉิน อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยซิดนีย์มองว่า รัฐบาลมีปัญหากับผู้มีสิทธิเลือกตั้งสตรี โดยเฉพาะสตรีสายกลางที่ไม่พอใจท่าทีบางอย่างของรัฐบาลผสมสายกลางขวา ยิ่งในยุค #MeToo ที่ผู้ตกเป็นเหยื่อแสดงตัวเรียกร้องความเป็นธรรมแล้ว การยกเลิกภาษีแบบนี้ยิ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ผลการหยั่งเสียงพบว่า รัฐบาลผสมพรรคเสรีนิยมและพรรคแห่งชาติเสี่ยงพ่ายแพ้หนักในการเลือกตั้งวุฒิสภาครึ่งสภาที่จะต้องขึ้นภายในวันที่ 18 พฤษภาคมปีหน้า เพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่พอใจที่พรรคเสรีนิยมโค่นนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล พ้นจากตำแหน่งด้วยการเลือกคนอื่นเป็นหัวหน้าพรรคแทนเขาในการประชุมพรรคเดือนสิงหาคม.- สำนักข่าวไทย