ทำเนียบฯ 15 ก.ย. – “พล.อ.ประวิตร” แถลงผลงานด้านความมั่นคง ชี้ 2 ปี แก้ปัญหาได้ผล หนุนโรดแมปรัฐบาล-คสช. เผยตัวเลขก่อเหตุ 3 จังหวัดภาคใต้ลดลงร้อยละ 60
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลงานครอบรอบ 2 ปีของรัฐบาล ด้านความมั่นคงว่า งานความมั่นคงมิติที่กว้างและหลากหลาย ไม่เฉพาะเรื่องปกป้องอธิปไตยของชาติเพียงอย่างเดียว แต่อนาคตจะมีความเกี่ยวข้องกับประชาชนมากขึ้น เช่น ภัยพิบัติยาเสพติด แรงงานต่างด้าว การก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในรอบ 2 ปี ฝ่ายความมั่นคงได้แก้ไขปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทุกมิติ และสนับสนุนการดำเนินการตามโรดแมปของรัฐบาลและคสช. ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มที่ 1 กลุ่มงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศและอาเซียน คือ งานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงร่วมกับต่างประเทศ ได้แก่ ความร่วมมือทางทหาร สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และบรรยากาศให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของภูมิภาคอันจะนำไปสู่ความมั่นคง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กลุ่มที่ 2 กลุ่มงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับรัฐ คือ งานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ ได้แก่ การป้องกันประเทศ ปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน โดยบูรณาการการปฏิบัติระหว่างทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง โดยให้ความสำคัญเร่งด่วนกับพื้นที่ซึ่งมีปัญหาเรื่องเขตแดนและปัญหาภัยคุกคามความมั่นคงรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้ประชาชนตามแนวชายแดนมีความมั่นคงปลอดภัย โดยสามารถจับกุม ได้จำนวน 2,726 ครั้ง ยึดของกลางยาบ้า ได้ จำนวน 14 ล้านเม็ด จับผู้ต้องหา 2,749 คน จับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต้นทางได้ 44,784 คน จับกุมผู้ที่ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า 1,265 ครั้ง ผู้กระทำผิด 531 คน ยึดได้ของกลางไม้ชนิดต่างๆ 27,863 ท่อน
“การแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในห้วง 1 ปี ที่ผ่านมา จัดกำลังทหาร ตำรวจ และพลเรือน ปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 60,085 คน ซึ่งสถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สถิติการก่อเหตุรุนแรงลดลงประมาณร้อยละ 60 สืบสวนจับกุมคดีวางระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ในห้วง 11-12 สิงหาคม สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 คน และออกหมายจับ 5 คน แม้ว่าในทางการสอบสวนจะพบว่าผู้กระทำความผิดมาจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยง และไม่ใช่การขยายพื้นที่ปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงขึ้นมาในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การป้องกันการก่อเหตุร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ได้บูรณาการทุกภาคส่วนทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศเพื่อป้องกันปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งมีการจัดเตรียมกำลังเพื่อเผชิญสถานการณ์และแก้ไขปัญหาได้ทันทีในทุกพื้นที่ของประเทศ ส่วนการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่งประเทศไทยได้รับการยกระดับจากเทียร์ 3 ขึ้นมาอยู่ในระดับเทียร์ 2
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กลุ่มที่ 3 เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ได้แก่ การช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย จัดหาที่ดินทำกินให้ราษฎรผู้ยากไร้ในลักษณะแปลงรวม โดยให้ชุมชนดูแลกันเอง จำนวน 10 พื้นที่ใน 6 จังหวัด แบ่งพื้นที่เป็น 7 แปลง เนื้อที่ 30,500 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 5,678 คน
ส่วนการจัดหางานและแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกว่า 1.3 ล้านคน โดยกำหนดหลักเกณฑ์ และกระบวนการอนุญาตให้มีการจ้างงานและแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบที่รัฐกำหนด ด้วยความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย 44 แห่ง โดยบรรจุงานทั้งบุคคลทั่วไปและผู้พิการแล้วมากกว่า 200,000 คน จัดส่งคนไปทำงานต่างประเทศมากกว่า 50,000 คน มีรายได้รวมมากกว่า 165,000 ล้านบาทต่อไป
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้จัดการกับผู้มีอิทธิพล มาเฟีย เรียกรับผลประโยชน์ เสื้อวิน มอเตอร์ไซค์ สลากกินแบ่งรัฐบาล ยาเสพติด บ่อนการพนัน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีผลการจับกุมได้ 615,882 คดี ผู้ต้องหารวม 503,772 คน ปราบปรามการค้ามนุษย์มีผลจับกุม 31 คดี ช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กผู้เสียหาย 32 คน การตรวจสถานบริการที่เปิดเกินเวลาและผิดกฎหมายและแหล่งอบายมุข ตรวจสถานที่จำนวน 137,826 แห่ง เพิกถอนใบอนุญาต 5 แห่ง สั่งพักใช้ใบอนุญาต 8 แห่ง สั่งปิด 5 ปี จำนวน 13 แห่ง ดำเนินคดีตามกฎหมาย จำนวน 595 แห่ง
“งานด้านความมั่นคงที่รัฐบาลได้ทำนั้น เพื่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของบ้านเมือง และมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะทหาร และตำรวจเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับคนไทยทุกคน เกี่ยวข้องกับการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และการพัฒนาประเทศในมิติอื่นด้วย” พล.อ.ประวิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย