“รังสิมันต์” ฝาก 3 ข้อ ทวงถามความจริงใจจาก “รัฐบาล” คดีตากใบ

รัฐสภา 25 ต.ค.-“รังสิมันต์” ฝาก 3 ข้อ ทวงถามความจริงใจจากรัฐบาล” ลั่นตั้งแต่นายกฯ ผู้พ่อ สู่นายกฯ ผู้ลูก จะยังส่งสัญญาณการละเลยความเจ็บปวดของประชาชนเหมือนเดิมอีกหรือ มองหากทำให้มีความหวังไม่ได้ ไฟใต้ก็มีแต่จะโหมกระพือ สุดท้ายสภาฯ ส่งต่อ ‘คดีตากใบ’ ให้ ‘กมธ.กฎหมาย-รัฐบาล’ ศึกษาต่อ 90 วัน

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อภิปรายว่า สิ่งที่เรากำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ มีถ้อยคำที่สำคัญ คือความจริงใจ ซึ่งตนเชื่อว่าความจริงใจนี้ จะเป็นหัวใจที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะในกรณีตากใบเท่านั้น แต่รวมไปถึงการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย


นายรังสิมันต์ กล่าวถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งตนเคยมีโอกาสได้ตั้งกระทู้ถามต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปแล้ว ซึ่งท่าที่และคำตอบหลักๆ คือการวิพากษ์วิจารณ์ต่อคุณลักษณะหรือท่าทีของการถามเท่านั้น เราแทบไม่ได้รับคำตอบ และไม่ได้เห็นถึงความจริงใจอะไรเลยของรัฐบาลนี้ ในการที่จะแก้ปัญหาดับไฟใต้อย่างจริงจัง ในการที่จะทวงความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย ผู้สูญเสีย จากเหตุการณ์ตากใบแม้แต่น้อย

นายรังสิมันต์ มองว่า การตั้งกระทู้ถามในวันนั้น ไม่ใช่คำถามที่จะได้รับคำตอบเท่านั้น แต่รวมไปถึงความชัดเจน ความจริงใจ ที่ประชาชนซึ่งอยู่นอกสภาจะได้รับด้วย และรวมไปถึงโอกาสของรัฐบาล ที่จะได้พิสูจน์ตัวเองว่า ท่านมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาดับไฟใต้ อย่างที่ท่านพูดเอาไว้ตลอดเวลา


นายรังสิมันต์ ย้ำว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูด แต่ไม่ได้หมายความว่า คำพูดคือสิ่งที่ไม่มีความสำคัญเลย ถ้าเราดูในช่วงเวลาที่ผ่านมา จะพบว่าการพูดเรื่องของคดีตากใบจากรัฐบาลนี้ในหลายโอกาสนั้น อย่างคำพูดของนายภูมิธรรมที่บอกว่า ตากใบไม่สำคัญ น้ำท่วมสำคัญกว่า ตนเข้าใจดีว่า เหตุการณ์น้ำท่วมเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ แต่เราไม่ควรจะต้องเลือกว่า เหตุการณ์ใดสำคัญกว่าเหตุการณ์ใด เพราะสำหรับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ แล้ว สิ่งที่เขากำลังเจอล้วนสำคัญ รัฐบาลมีการส่งสัญญาณถึงความจริงใจบ้างหรือไม่

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า มากไปกว่านั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็พูดเป็นนัยว่า ทำไมมาฟ้องเอาตอนนี้ คดีใกล้จะหมดอายุความ ทำตัวเป็นเหยื่อ และคนที่สูญเสียกลายเป็นแพะ ถูกตราหน้าจากสังคม จนเป็นคนที่ถูกโยนบาป ว่าพวกเขามีจุดมุ่งหมายทางการเมืองบางอย่างที่จะทำลายรัฐบาล นี่หรือคือความจริงใจที่รัฐบาลกำลังจะมอบให้กับกรณีตากใบ

นายรังสิมันต์ กล่าวย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ขึ้นเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น แม้จะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตีกอล์ฟอยู่ ตนเข้าใจว่าคนธรรมดาก็ต้องมีการพักผ่อนกันบ้าง แต่ตลอดเหตุการณ์ตั้งแต่การชุมนุมไปจนถึงการที่รถขนคนเที่ยวสุดท้าย ลากยาวตั้งแต่ตอนเช้าถึงเวลาตีหนึ่งนั้น


“ท่านไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้มันผิด เป็นความผิดพลาดในการบริหารจัดการ และท่านในฐานะนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ไม่รู้สึกว่าจะต้องทำเลยหรือ แม้เหตุการณ์ผ่านมาแล้ว ตั้งแต่นายกฯ ผู้พ่อ มาสู่นายกฯ ผู้ลูก เราจะส่งสัญญาณถึงการละเลยความเจ็บปวดของประชาชนเหมือนเดิมอีกหรือ”

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า เรื่องนี้เป็นใหญ่กว่าแค่คนในคณะกรรมาธิการ หรือใครคนใดคนหนึ่งคุยกัน แต่เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และความจริงใจที่รัฐบาลควรส่งให้กับประชาชน ตนคิดว่า หากเราจะเดินหน้าต่อไป รัฐบาลต้องตอบ 3 คำถามที่ตนขอฝากไว้ให้ คือ 1.วันนี้ท่านต้องตอบให้ชัดว่า เหตุการณ์ตากใบที่เกิดขึ้น ตอนที่อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น ทำไมท่านถึงไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของท่าน และในระยะเวลายาวนาน ทำไมถึงปล่อยให้เกิดขึ้นได้

2.หลังจากนี้คงหมดอายุความ ปาฏิหาริย์ที่เราคาดหวังว่า จะมีการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมคงไม่เกิด แต่คำถามสำคัญคือ เราจะมีกระบวนการ หรือนโยบายอย่างไร ที่จะมั่นใจได้ว่า กระบวนการยุติธรรมของเรา จะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว เราจะสร้างความมั่นใจได้อย่างไร ให้ประชาชนสามจังหวัดชายแดนใต้ รู้สึกได้ว่าเขาสามารถพึ่งพากระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ได้

และ 3.เราต้องยอมรับความจริงว่า แนวทางในการบริหารเพื่อดับไฟใต้ของรัฐบาลนี้ กับรัฐบาลที่ผ่านๆ มา แทบไม่มีความแตกต่างกันเลย ดังนั้น ท่านช่วยสร้างความแตกต่างได้หรือไม่ ท่านช่วยนำเสนอนโยบายในการดับไฟใต้ ที่จะนำไปสู่การสร้างความแตกต่างให้ประชาชนรู้สึกว่ามีความหวังอีกครั้ง เขาจะได้รู้สึกถึงความจริงใจของรัฐบาล

“เพราะตราบใดที่เราไม่สามารถสร้างความหวัง และความจริงใจให้ประชาชนสามารถรู้สึกได้ ไฟใต้ก็มีแต่โหมกระพือ และสิ่งที่ท่านได้พูดในเวลาที่ผ่านมา มันได้จุดไฟนั้นอีกครั้ง ขอให้ใช้โอกาสนี้แก้ไขในสิ่งที่ผิด อย่าปล่อยให้ไฟใต้ต้องเป็นแบบนี้อีกต่อไป”นายรังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ ภายหลังสมาชิกได้อภิปราย ญัตติด่วนด้วยวาจากรณีตากใบเสร็จสิ้นแล้ว นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม กล่าวว่า จากการอภิปรายญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องกรณีตากใบ เพื่อให้สภาได้พิจารณา และส่งข้อเสนอต่อรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหนึ่ง จากการที่ได้รับฟังการอภิปรายของสมาชิกมีความเห็นแนวทางเดียวกันเห็นว่า ญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องนี้ สมควรให้ส่งให้คณะกรรมาธิการการกฏหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาศึกษา

ดังนั้น นายพิเชษฐ์ จึงถามที่ประชุมว่า ญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องนี้ สมควรให้ส่งให้คณะกรรมาธิการการกฏหมายณ เพื่อพิจารณาศึกษาหรือไม่ หากไม่มี ถือว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องนี้ให้กับคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ เพื่อพิจารณาศึกษา

จากนั้น นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะส่งต่อให้คณะกรรมาธิการการกฏหมายฯ แต่มีข้อเสนอว่า อยากให้ส่งให้ทางรัฐบาลด้วย

ขณะที่นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรีพรรคเพื่อไทย เสนอระยะเวลาพิจารณา 90 วัน

สุดท้าย ประธานฯ สรุปว่า จะส่งต่อเรื่องนี้ ให้กับคณะกรรมการกฎหมายฯ และรัฐบาล โดย กำหนดระยะเวลาการพิจารณา 90 วัน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า