“รังสิมันต์” ฝาก 3 ข้อ ทวงถามความจริงใจจาก “รัฐบาล” คดีตากใบ

รัฐสภา 25 ต.ค.-“รังสิมันต์” ฝาก 3 ข้อ ทวงถามความจริงใจจากรัฐบาล” ลั่นตั้งแต่นายกฯ ผู้พ่อ สู่นายกฯ ผู้ลูก จะยังส่งสัญญาณการละเลยความเจ็บปวดของประชาชนเหมือนเดิมอีกหรือ มองหากทำให้มีความหวังไม่ได้ ไฟใต้ก็มีแต่จะโหมกระพือ สุดท้ายสภาฯ ส่งต่อ ‘คดีตากใบ’ ให้ ‘กมธ.กฎหมาย-รัฐบาล’ ศึกษาต่อ 90 วัน

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อภิปรายว่า สิ่งที่เรากำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ มีถ้อยคำที่สำคัญ คือความจริงใจ ซึ่งตนเชื่อว่าความจริงใจนี้ จะเป็นหัวใจที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะในกรณีตากใบเท่านั้น แต่รวมไปถึงการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย


นายรังสิมันต์ กล่าวถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งตนเคยมีโอกาสได้ตั้งกระทู้ถามต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปแล้ว ซึ่งท่าที่และคำตอบหลักๆ คือการวิพากษ์วิจารณ์ต่อคุณลักษณะหรือท่าทีของการถามเท่านั้น เราแทบไม่ได้รับคำตอบ และไม่ได้เห็นถึงความจริงใจอะไรเลยของรัฐบาลนี้ ในการที่จะแก้ปัญหาดับไฟใต้อย่างจริงจัง ในการที่จะทวงความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย ผู้สูญเสีย จากเหตุการณ์ตากใบแม้แต่น้อย

นายรังสิมันต์ มองว่า การตั้งกระทู้ถามในวันนั้น ไม่ใช่คำถามที่จะได้รับคำตอบเท่านั้น แต่รวมไปถึงความชัดเจน ความจริงใจ ที่ประชาชนซึ่งอยู่นอกสภาจะได้รับด้วย และรวมไปถึงโอกาสของรัฐบาล ที่จะได้พิสูจน์ตัวเองว่า ท่านมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาดับไฟใต้ อย่างที่ท่านพูดเอาไว้ตลอดเวลา


นายรังสิมันต์ ย้ำว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูด แต่ไม่ได้หมายความว่า คำพูดคือสิ่งที่ไม่มีความสำคัญเลย ถ้าเราดูในช่วงเวลาที่ผ่านมา จะพบว่าการพูดเรื่องของคดีตากใบจากรัฐบาลนี้ในหลายโอกาสนั้น อย่างคำพูดของนายภูมิธรรมที่บอกว่า ตากใบไม่สำคัญ น้ำท่วมสำคัญกว่า ตนเข้าใจดีว่า เหตุการณ์น้ำท่วมเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ แต่เราไม่ควรจะต้องเลือกว่า เหตุการณ์ใดสำคัญกว่าเหตุการณ์ใด เพราะสำหรับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ แล้ว สิ่งที่เขากำลังเจอล้วนสำคัญ รัฐบาลมีการส่งสัญญาณถึงความจริงใจบ้างหรือไม่

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า มากไปกว่านั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็พูดเป็นนัยว่า ทำไมมาฟ้องเอาตอนนี้ คดีใกล้จะหมดอายุความ ทำตัวเป็นเหยื่อ และคนที่สูญเสียกลายเป็นแพะ ถูกตราหน้าจากสังคม จนเป็นคนที่ถูกโยนบาป ว่าพวกเขามีจุดมุ่งหมายทางการเมืองบางอย่างที่จะทำลายรัฐบาล นี่หรือคือความจริงใจที่รัฐบาลกำลังจะมอบให้กับกรณีตากใบ

นายรังสิมันต์ กล่าวย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ขึ้นเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น แม้จะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตีกอล์ฟอยู่ ตนเข้าใจว่าคนธรรมดาก็ต้องมีการพักผ่อนกันบ้าง แต่ตลอดเหตุการณ์ตั้งแต่การชุมนุมไปจนถึงการที่รถขนคนเที่ยวสุดท้าย ลากยาวตั้งแต่ตอนเช้าถึงเวลาตีหนึ่งนั้น


“ท่านไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้มันผิด เป็นความผิดพลาดในการบริหารจัดการ และท่านในฐานะนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ไม่รู้สึกว่าจะต้องทำเลยหรือ แม้เหตุการณ์ผ่านมาแล้ว ตั้งแต่นายกฯ ผู้พ่อ มาสู่นายกฯ ผู้ลูก เราจะส่งสัญญาณถึงการละเลยความเจ็บปวดของประชาชนเหมือนเดิมอีกหรือ”

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า เรื่องนี้เป็นใหญ่กว่าแค่คนในคณะกรรมาธิการ หรือใครคนใดคนหนึ่งคุยกัน แต่เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และความจริงใจที่รัฐบาลควรส่งให้กับประชาชน ตนคิดว่า หากเราจะเดินหน้าต่อไป รัฐบาลต้องตอบ 3 คำถามที่ตนขอฝากไว้ให้ คือ 1.วันนี้ท่านต้องตอบให้ชัดว่า เหตุการณ์ตากใบที่เกิดขึ้น ตอนที่อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น ทำไมท่านถึงไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของท่าน และในระยะเวลายาวนาน ทำไมถึงปล่อยให้เกิดขึ้นได้

2.หลังจากนี้คงหมดอายุความ ปาฏิหาริย์ที่เราคาดหวังว่า จะมีการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมคงไม่เกิด แต่คำถามสำคัญคือ เราจะมีกระบวนการ หรือนโยบายอย่างไร ที่จะมั่นใจได้ว่า กระบวนการยุติธรรมของเรา จะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว เราจะสร้างความมั่นใจได้อย่างไร ให้ประชาชนสามจังหวัดชายแดนใต้ รู้สึกได้ว่าเขาสามารถพึ่งพากระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ได้

และ 3.เราต้องยอมรับความจริงว่า แนวทางในการบริหารเพื่อดับไฟใต้ของรัฐบาลนี้ กับรัฐบาลที่ผ่านๆ มา แทบไม่มีความแตกต่างกันเลย ดังนั้น ท่านช่วยสร้างความแตกต่างได้หรือไม่ ท่านช่วยนำเสนอนโยบายในการดับไฟใต้ ที่จะนำไปสู่การสร้างความแตกต่างให้ประชาชนรู้สึกว่ามีความหวังอีกครั้ง เขาจะได้รู้สึกถึงความจริงใจของรัฐบาล

“เพราะตราบใดที่เราไม่สามารถสร้างความหวัง และความจริงใจให้ประชาชนสามารถรู้สึกได้ ไฟใต้ก็มีแต่โหมกระพือ และสิ่งที่ท่านได้พูดในเวลาที่ผ่านมา มันได้จุดไฟนั้นอีกครั้ง ขอให้ใช้โอกาสนี้แก้ไขในสิ่งที่ผิด อย่าปล่อยให้ไฟใต้ต้องเป็นแบบนี้อีกต่อไป”นายรังสิมันต์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ ภายหลังสมาชิกได้อภิปราย ญัตติด่วนด้วยวาจากรณีตากใบเสร็จสิ้นแล้ว นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม กล่าวว่า จากการอภิปรายญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องกรณีตากใบ เพื่อให้สภาได้พิจารณา และส่งข้อเสนอต่อรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหนึ่ง จากการที่ได้รับฟังการอภิปรายของสมาชิกมีความเห็นแนวทางเดียวกันเห็นว่า ญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องนี้ สมควรให้ส่งให้คณะกรรมาธิการการกฏหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาศึกษา

ดังนั้น นายพิเชษฐ์ จึงถามที่ประชุมว่า ญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องนี้ สมควรให้ส่งให้คณะกรรมาธิการการกฏหมายณ เพื่อพิจารณาศึกษาหรือไม่ หากไม่มี ถือว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องนี้ให้กับคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ เพื่อพิจารณาศึกษา

จากนั้น นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะส่งต่อให้คณะกรรมาธิการการกฏหมายฯ แต่มีข้อเสนอว่า อยากให้ส่งให้ทางรัฐบาลด้วย

ขณะที่นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรีพรรคเพื่อไทย เสนอระยะเวลาพิจารณา 90 วัน

สุดท้าย ประธานฯ สรุปว่า จะส่งต่อเรื่องนี้ ให้กับคณะกรรมการกฎหมายฯ และรัฐบาล โดย กำหนดระยะเวลาการพิจารณา 90 วัน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]