พรรคเพื่อไทย 6 ก.ย.- คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35 ยื่นหนังสือที่ขอให้พรรคเพื่อไทยปรับบทบาทจากพรรคการเมืองเป็นผู้นำเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยสืบสานเจตนารมณ์พฤษภา 35
คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35 นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการ พร้อมคณะเข้ายื่นหนังสือที่พรรคเพื่อไทย โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรค เป็นผู้รับเรื่อง โดยขอให้พรรคเพื่อไทยปรับบทบาทจากพรรคการเมือง และการเป็นผู้นำเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยสืบสานเจตนารมณ์พฤษภา 35 โดยเรียกร้อง 3 ข้อ ให้แสดงจุดยืนในฐานะผู้นำพรรคการเมืองเพื่อนำพาประเทศออกจากวิกฤตการเมืองในปัจจุบัน คือ 1.ขอให้ยืนหยัดปกป้องประชาธิปไตย และไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคแนวร่วมคสช. 2.ขอให้สร้างประชาธิปไตยภายในพรรค ทบทวนและปรับบทบาทเป็นผู้นำแห่งการสร้างความสามัคคีปรองดอง ทำตามเสียงประชาชน และนำพาประเทศออกจากวิกฤตวังวนของเผด็จการทหาร และ3.ขอให้สนับสนุนและสืบสานเจตนารมณ์พฤษภา 35 และร่วมผลักดันให้มีการชดใช้ เยียวยา รวมถึงสร้างอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมให้เสร็จโดยเร็ว
ด้านนายภูมิธรรม ยืนยันว่า สิ่งที่มาร้องขอนั้น ตรงตามเจตนารมณ์ของพรรค ที่ชัดเจนว่าจะอยู่ข้างประชาธิปไตย เพราะมองเป็นทางออกของประเทศ ไม่เอาการสืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่จะเน้นการพัฒนาประเทศให้ดีกว่าเดิม ซึ่งส่วนตัวเข้าใจประชาชนดีเพราะอยู่ภายใต้ระบบพิเศษมา 5 ปี รู้ปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมขอให้มีการคืนสิทธิและอำนาจในการคิดและตัดสินใจ รวมถึงคืนชีวิตที่ดีขึ้นให้ประชาชนด้วย เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นการเมืองที่เป็นปกติ พรรคเพื่อไทยมีเอกภาพตามระบอบประชาธิปไตย ในส่วนของเรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคไม่ใช่ปัญหาและจะจบลงแน่นอน เมื่อรัฐบาลปลดล็อคให้กับพรรคการเมืองสามารถดำเนินการคัดสรรกันเอง พรรคขอบคุณทุกฝ่ายที่มีการเสนอรายชื่อบุคคลเป็นหัวหน้าพรรคด้วย
ขณะที่นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกคนได้มีบทเรียนร่วมกัน เกี่ยวกับการเปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีที่มาจากคนนอก เพื่อสืบทอดเผด็จการ ซึ่งในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ก็ได้มีความขัดแย้งและต่อสู้จนสูญเสียเลือดเนื้อ จึงทำให้เกิดแนวคิดว่านายกรัฐมนตรีจะต้องมาจากการเลือกตั้ง และไม่สืบทอดรัฐบาลทหาร ตนไม่เห็นด้วยและจะขัดขวางโดยสันติวิธีตามครรลองประชาธิปไตย อีกทั้งจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง และจะไม่สนับสนุนคนของ คสช.ไม่ว่าคนใดและรูปแบบใดก็ตาม ทั้งรอบแรกในรายชื่อบัญชีพรรค หรือรอบสองของการเสนอชื่อคนนอก และจะพยายามแข่งขันเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ตัดสินใจลงเล่นการเมือง และลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็เท่ากับว่ามีความขัดแย้งในตัวเอง เพราะเป็นการใช้อำนาจตามใจชอบแต่แรก ที่สำคัญการเป็นหัวหน้าคสช.นั้นมีอำนาจพิเศษเบ็ดเสร็จในตัว ดังนั้น การเรียกร้องให้ลาออกคงเป็นเรื่องยากเกินไป เพราะจะไม่มีความชอบธรรมในการเข้าสู่การเมืองและได้รับการเลือกตั้งมาเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนนโยบายของพรรคขณะนี้ เน้นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ซึ่งจะทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีการปลดล็อคคำสั่งคสช.ให้พรรคการเมืองดำเนินการใด ๆ ได้ จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนพลาดโอกาส เพราะนโยบายต้องคิดก่อนเลือกตั้งและต้องประชุมหารือกัน ดังนั้นเวลาที่รัฐบาลกำหนดให้จึงไม่เพียงพอสำหรับการหาเสียง หากนโยบายไม่ชัดเจน ถือเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งตาทระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย