พรรคไทยรักษาชาติ 19 พ.ย.- อดีตแกนนำและอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย เปิดตัวร่วมงานพรรคไทยรักษาชาติ “จาตุรนต์ ฉายแสง” ระบุเป็นการแก้เกมสู้กับการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ปิดช่องทางสืบทอดอำนาจ “ณัฐวุฒิ” ยันสังกัดใหม่ไม่เกี่ยวข้ององค์กร นปช.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง พร้อมด้วย นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง นางฐิติมา ฉายแสง อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง น.ส.อนุตมา อมรวิวัฒน์ นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายนรวิช หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โดยมีร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค และผู้บริหารของพรรคไทยรักษาชาติให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมี นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา เดินทางมาให้กำลังใจด้วย
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า คนที่มาร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติวันนี้ เป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่า ในฝั่งประชาธิปไตย ทุกคนที่มารวมกันอยู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือจุดยืนในการรักษาประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจทุกรูปแบบ แม้พรรคไทยรักษาชาติจะมีอายุไม่นาน แต่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มาเสริมความแข็งแกร่งให้พรรค
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะมีความขัดแย้งกับแกนนำพรรคหรือใครในพรรค ไม่มีปัญหาความแตกต่างทางอุดมการณ์หรือนโยบาย และคิดว่าการทำงานตามอุดมการณ์เพื่อให้ปรากฏเป็นจริงจะทำได้อย่างไร ซึ่งในสถานการณ์นี้ประเทศอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพรามีกลุ่มที่ต้องการสืบทอดอำนาจ กับฝ่ายประชาธิปไตย ดังนั้นโจทย์คือจะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจได้อย่างไร หากหยุดยั้งไม่ได้ ประเทศไทยอาจตกอยู่ภายใต้ คสช. อีก10-20ปี
“รัฐธรรมนูญได้วางกติกาลดทอนอำนาจประชาชน และมีนักการเมืองบางคนประกาศว่ารัฐธรรมนูญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเขา พรรคการเมืองใหญ่ถูกสกัดไม่ให้มีเสียงข้างมาก ซึ่งการออกแบบรัฐธรรมนูญเช่นนี้ เหมือนกับเจาะจงให้มีผลต่อพรรคการเมืองใหญ่ เมื่อรู้เท่าทันในรัฐธรรมนูญก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้พรรคการเมืองพ้นและฝ่ากับดักนี้ไปได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสฝ่ายประชาธิปไตย ลดโอกาสที่เขาจะสืบทอดอำนาจ” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตอนที่หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ มาเชิญ ได้พูดคุยเห็นถึงอุดมการณ์ที่ตรงกัน เลยตัดสินใจมา ที่มาไม่ใช่เพราะหนีกับดักส่วนตัว แต่ต้องการพัฒนาบ้านเมืองด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ เพื่อให้พรรคนี้เป็น ยานพาหนะ ที่ทำให้พรรค นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หลีกเลี่ยงกับดักที่ออกแบบไว้ เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่จะพัฒนาประเทศชาติร่วมกัน โดยตั้งเป้าจะนำพาพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ 251 เสียง
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายจับตาว่า พรรคเพื่อไทย ถูกมองว่ามุ่งหวังคะแนนระบบเขต ส่วนพรรคไทยรักษาชาติ มุ่งหวังระบบบัญชีรายชื่อ นั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า จะตอบแทนพรรคเพื่อไทยก็ไม่เหมาะ หรือจะมาตอบแทนพรรคไทยรักษาชาติเลยก็ดูไม่ดี เอาไว้ค่อยหารือกันอีกครั้ง
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย มีแต่ความรัก อบอุ่น ถึงทุกวันนี้ก็รู้สึกดีไม่เสื่อมคลาย จะยืนหยัดต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างสันติวิธี และตนได้พูดคุยกับหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ต่างมองไปในทางเดียวกันในการต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตย จึงเดินทางมาสมัครพรรคนี้ โดยไม่มีเงื่อนไข ข้อเรียกร้องในสถานะใด ๆ แต่ขอเพียงอย่างเดียว ว่าไทยรักษาชาติ ต้องไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืน หลักการ เมื่อตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ขอปวารณาตัวตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคมอบหมาย หวังว่าประชาชนจะให้โอกาสพรรคไทยรักษาชาติ แม้เป็นพรรคใหม่ แต่จิตวิญญาณยังคงเดิม ชอบที่พรรคนี้เป็นศูนย์รวมของคนมีความคิดทันสมัย บนรากฐานประชาธิปไตย
ส่วนข้อสังเกตว่ามีแต่คนเสื้อแดง ที่ไปอยู่พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นปช.ได้หารือ กันว่า จะไม่ตั้งพรรคการเมืองในนาม นปช. ส่วนสมาชิกจะไปร่วมงานพรรคใด ถือเป็นเสรีภาพ ตราบใดยืนยันตามหลักประชาธิปไตย ถือเป็นแนวร่วม แต่ถ้าใครไปร่วมกับฝ่ายเผด็จการ ถือว่าขาดกัน ส่วนการที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ และตนมาอยู่พรรคไทยรักษาชาติ จึงไม่ได้เป็นความขัดแย้ง เพราะ ไม่ได้ไปร่วมงานกับพรรคใดไปในนามองค์กร นปช. .-สำนักข่าวไทย