“องอาจ” ไม่เกี่ยงไพรมารีแบบไหนก็ได้

“องอาจ” ไม่เกี่ยงไพรมารีแบบไหนก็ได้ชี้ ปชป. เปิดให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง

 พรรคประชาธิปัตย์2 ก.ย.-นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)จะออกคำสั่งมาตรา 44 แก้ปัญหาการทำไพรมารีโหวตโดยปรับรูปแบบใหม่ว่า พรรคไม่ขัดข้อง ไม่ว่าจะต้องทำไพรมารีโหวตรูปแบบไหน แบบใหม่หรือแบบเก่า เพราะถือเป็นการให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมทางการเมือง ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางมานานแล้วแม้ไม่มีกฎหมายบังคับ โดยสมาชิกพรรคสามารถเสนอชื่อบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมจะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในที่ประชุมสาขาพรรค จากนั้นสาขาพรรคก็จะส่งรายชื่อมาให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะมีชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งต่อไป

 นายองอาจ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสมาชิกพรรคมาโดยตลอด ถึงแม้กฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้กำหนดให้สมาชิกพรรคต้องเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง แต่ในการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งใหม่ที่จะมีขึ้น หลังจากมีการคลายล็อกแล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะให้มีการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรงจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ด้วยวิธีการที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่มาอำนวยความสะดวกในการทำงาน ซึ่งจะช่วยทำให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมทางการเมืองได้เต็มที่

 ส่วนหลังจากคลายล็อคแล้ว ยังมีความไม่ชัดเจนว่าอะไร ทำได้หรือไม่ได้อย่างไรนั้น นายองอาจกล่าวว่า ถ้า คสช. และรัฐบาลคำนึงถึงการปฏิรูปการเมืองและเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายได้ ก็ไม่น่ามีปัญหาเรื่องความไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้หลังคลายล็อค แต่เมื่อคนบางคนใน คสช. และรัฐบาลจะสืบสานปณิธานการสืบทอดอำนาจต่อไป จึงทำให้ต้องใช้อำนาจที่มีอยู่มาออกคำสั่งแก้ไขกฎหมายจนทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามปกติ ซึ่งอยากตั้งข้อสังเกตว่า การปรับ – เปลี่ยน – เพิ่ม – ลด กฎเกณฑ์กติกาทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง 

“ขอฝากผู้มีอำนาจคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจมีคำสั่งอะไรออกมา เพราะถ้าเป็นคำสั่งที่ก่อให้เกิดการใช้อำนาจโดยมิชอบ มีการเอารัดเอาเปรียบกันมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นบูมเมอแรงมาทิ่มแทงผู้มีอำนาจให้เกิดความเสียหายได้ ทางที่ดีที่สุดคือทำตรงไปตรงมา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่มีอะไรสะดุด น่าจะเป็นสุดยอดปรารถนาของคนในชาติมากกว่า”นายองอาจ กล่าว.สำนักข่าวไทย