กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- ตำรวจท่องเที่ยว จับ 2 เครือข่ายโรแมนซ์สแกม หลอกผู้เสียหายหญิงไทย พร้อมเตรียมตรวจสอบและกวาดล้างชาวผิวสีที่เข้ามากระทำผิดในไทยต่อเนื่อง
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวแถลงผลจับกุมเครือข่ายโรแมนซ์สแกม 2 เครือข่าย โดยคดีแรก ตำรวจจับ นาย JEAN ERIC TOUKAM ผู้ต้องหาชาวไนจีเรีย พร้อม นางสาวกัญญาภัค หรือฝน บุญล้ำ หลังสร้างเฟสบุ๊คปลอม หลอกผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาว ในพื้นที่ จังหวัดกำแพงเพชร ให้โอนเงินให้ สูญเงินไปกว่า 1 แสนบาท ต่อมาผู้เสียหายรู้ตัว ว่าถูกหลอก นอกจากนี้ผู้ต้องหาชาวไนจีเรีย ยังใช้ให้นางสาวกัญญาภัค ติดต่อผู้เสียหายอีกหนึ่งราย ว่ามีเงินยูเอส ดอลลาร์ ในราคาถูก โดยผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กว่า 100,000 บาท แต่ไม่ได้เงินดอลล่าห์แลกเปลี่ยน จึงแจ้งตำรวจเข้าจับกุม ได้บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยรามคำแหง 24 ตรวจค้น พบธนบัตรดอลลาร์ปลอม โทรศัพท์มือถือ บัตรเครดิต จำนวนมาก สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพ รับธนบัตรปลอมมาจากเพื่อนชาวแคเมอรูน ซึ่งอยู่ต่างประเทศ
ส่วนอีกคดี จับกุมนาย OLI IFAENYI VALENTINE ชาวไนจีเรีย พร้อม นางสุหร่ายรัตน์ ทิพย์สังข์ ภรรยาชาวไทย ได้ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี หลังสร้าง facebook ปลอม หลอกผู้เสียหายเป็นหญิงสาว ว่าจะส่งพัสดุเป็นของมีค่า อาทิ ทองคำ เครื่องประดับ มาให้แต่ติดปัญหา จึงให้โอนเงินเพื่อนำพัสดุออกมา ก่อนไปตระเวนกดเงินโดยมีการหลอกลวงผู้เสียหายใน 4 ท้องที่ อาทิ พญาไท บึงกุ่ม พัทลุง ภูเก็ต รวมสูญเงินเกือบ 4 ล้าน
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ระบุว่า ปัจจุบันการกระทำผิดของเครือข่ายโรแมนซ์สแกมลดลงอย่างเห็นได้ชัด เกิดเหตุเดือนละไม่ถึง 10 ราย จากที่ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งเหตุเดือนละ 20-30 ราย ขณะที่การกระทำผิดของเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ แทบจะเป็นศูนย์แล้ว ซึ่งเกิดจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งจากนี้ ตำรวจท่องเที่ยว จะตรวจสอบกลุ่มชาวไนจีเรียที่เดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 1,400 ราย รวมถึงชาวแคเมรูน ว่าเข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ หากพบเข้ามากระทำผิดในประเทศไทย จะจับกุมผลักดันออกนอกประเทศ และขึ้นแบล็กลิสต่อไป พร้อมแนะนำประชาชน การป้องกันที่ดีที่สุด คือการไม่โอนเงินไปให้กลุ่มคนร้าย.-สำนักข่าวไทย