ชุมพร 21 ส.ค.-นายกรัฐมนตรีระบุจะทำให้เกิดความเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ย้ำ ครม.สัญจรชุมพรไม่ได้มาแจกเงิน สั่งผู้ว่าฯศึกษา กติกาใหม่ของ BOI เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่จังหวดชุมพร จัดขึ้นที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวิทยาลัยเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อำเภอปะทิว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมความก้าวหน้าและความสำเร็จของการจัดตั้งมหาวิทยาลัย CMKL ที่เป็นความร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่นำงานวิจัย และนวัตกรรม มาจัดแสดง อาทิ นวัตกรรมดำน้ำลึกและความปลอดภัยทางทะเล และโดรนสำหรับการเกษตรซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับว่า การส่งเสริมการเพาะปลูกของเกษตรกร ต้องอยู่ในพื้นที่ถูกกฎหมาย เพราะหากเพาะปลูกในพื้นที่ผิดกฎหมาย ต่างประเทศจะไม่รับซื้อ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังเยี่ยมชม โครงการฟาร์มเลี้ยงแพะอัจฉริยะ การพัฒนาสายพันธุ์แพะเนื้อและแพะนม เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต ทดลองนั่งรถฟอร์มูล่า ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ด้านการประหยัดน้ำมัน และได้รางวัลรองชนะเลิศด้านอัตราการเร่งของรถในระยะทางที่กำหนด และเยี่ยมชมโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดชุมพร ประตูสู่แผ่นดินใต้ การยกระดับอาหารริมบาทวิถี หรือ อาหาร street food ซึ่งในจังหวัดชุมพรมีอยู่ 17 ร้านที่ได้มาตรฐาน สะอาดปลอดภัย โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ผู้ประกอบการ street food ของจังหวัดชุมพร ดำเนินการตามการจัดระเบียบทางเท้าของรัฐบาล ไม่ให้ผิดกฎหมายจราจร ทำให้ดูสวยงาม สะอาด รวมทั้งเยี่ยมชมเครื่องเก็บข้อมูล ผู้ป่วยที่เข้ารับการฟอกไต
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับคณะรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย(ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานีและสงขลา)และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน(ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่และสตูล)รวม 10 จังหวัด ผู้แทนภาครัฐและเอกชน และเป็นประธานการประชุม การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวช่วงต้นว่าการประชุม ครม. นอกสถานที่ไม่ใช่การมาเพื่อแจกเงิน แต่มาทำให้เกิดความเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องที่มีการพูดถึงเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้หรือSEC ซึ่งมีความแตกต่างจากเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC และเท่าที่ทราบขณะนี้หลายจังหวัดมีความประสงค์อยากเข้าร่วมใน SEC ทั้งที่เป็นเรื่องคนละประเด็น เนื่องจาก SEC เป็นเรื่องของการสร้างกิจกรรม เพื่อให้เกิดรายได้จากความเชื่อมโยง ในจังหวัดที่สามารถเริ่มได้ก่อน เช่น เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องโลจิสติกส์ สนามบิน ท่าเรือ เพื่อเพิ่มมูลค่าในภูมิภาคให้มากขึ้น ส่วนสิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็นไปตามกรอบของ BOI ซึ่งมีรายละเอียดและข้อกำหนดมากมาย จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปศึกษารายละเอียด กติกาใหม่ของ BOI ด้วย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในพื้นที่มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย