จ.นครปฐม 20 ส.ค.-มส.มีมติยกวัดร้างทางภาคเหนือ 9 วัด เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ทำนุบำรุงพระศาสนา ขณะที่ กรรมการมส.ชุดเดิม จะหมดวาระดำรงตำแหน่งหลายรูป ช่วงเดือนกันยายนนี้ หลังมีพ.ร.บ.สงฆ์ฉบับใหม่
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม แถลงมติประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ครั้งที่ 21 ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ พุทธมณฑล จ.นครปฐม ว่า การประชุมวันนี้ (20ส.ค.) มีสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานการประชุมแทนสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ยกวัดร้าง ทางภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ จำนวน 6 วัด ขึ้นเป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษา เพื่อทำนุบำรุงพระศาสนา คือวัดวังดิน อ.แม่อาย ,วัดประตูโขง อ.ชัยปราการ,วัดสันบัวนาค อ.พร้าว,วัดโป่งช้างแก้ว อ.แม่แตง,วัดพระป่า อ.ดอยหล่อ,วัดฝั่งหมิ่น อ.ดอยสะเก็ด
นอกจากนี้ยังมี จ.ลำปาง โดยยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ คือ วัดพระธาตุดอยแก้วชัยมงคล , จ.น่าน วัดดอยแยง ,จ.พิษณุโลก วัดหนองจิก ซึ่งวัดร้างทั่วประเทศมีจำนวน กว่า 10,000 วัด การยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษา มีขั้นตอนคล้ายกับการขอจัดสร้างวัด โดยต้องผ่านความเห็นชอบจาก มส.
นายสิปป์บวร กล่าวด้วยว่า การประชุมวันนี้ยังเป็นกรรมการ มส.ชุดเดิม แม้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฉบับที่ 4 มีผลบังคับใช้หลังประกาศราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่18 กรกฏาคม ปรับแก้ที่มาและการแต่งตั้งกรรมการมส.ชุดใหม่ ให้เป็นไปตาม พระราชอำนาจ พระมหากษัตริย์ ในการแต่งตั้ง สถาปนา และถอดถอนสมณศักดิ์ ของพระภิกษุในคณะสงฆ์ และแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม โดยใน มาตรา 11 ยังให้กรรมการมหาเถรสมาคมซึ่งดำรงดำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้ ใช้บังคับ ยังคงดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าพระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคมขึ้นใหม่
ทั้งนี้ กรรมการชุดเก่า มีหลายรูปที่จะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้ และเดือนม.ค.2562 ส่วนจะมีรูปใดที่จะมาดำรงตำแหน่ง ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เนื่องจากเป็นพระราชอำนาจ.-สำนักข่าวไทย