fbpx

อุบลฯ ตั้งศูนย์เฝ้าระวังน้ำ ล่องเรือตรวจน้ำชีล้นตลิ่ง

อุบลราชธานี 4 ส.ค.- ผู้ว่าฯ อุบลราชธานีล่องเรือสำรวจน้ำชีเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรอำเภอเขื่องในมาหลายวัน ส่วนน้ำโขงเอ่อเช่นกัน ขณะที่น้ำมูลยังรับน้ำได้อีก แต่ไม่ประมาทได้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเตรียมรับฝนตกอีกระยะนี้


นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ติดตามเฝ้าระวังอุทกภัยของจังหวัด ลงพื้นที่อำเภอเขื่องในติดตามการระบายน้ำของเขื่อนธาตุน้อยในพื้นที่บ้านคำไฮ ต.ธาตุน้อย ซึ่งระดับน้ำเกินกักเก็บร้อยละ 27 จึงต้องระบายออกลงสู่แม่น้ำมูล เพื่อลดผลกระทบน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำ และการระบายน้ำดังกล่าว เพื่อเตรียมรับพายุลูกใหม่ตามที่กรมอุตุนิยมพยากรณ์ว่าจะเข้าสู่ประเทศไทยในระยะนี้ จากนั้นนายสฤษดิ์ พร้อมชลประทานที่ 7 และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ยังล่องเรือตรวจสภาพน้ำท่วมขังพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 3,000 ไร่ ในพื้นที่ 5 ตำบล ของอำเภอเขื่องใน


นายสฤษดิ์ กล่าวว่า แม่น้ำทั้ง 3 สายของจังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้แม่น้ำชีในพื้นที่มีน้ำไหลมารวมกันจากแม่น้ำยังด้านจังหวัดร้อยเอ็ดและแม่น้ำชีด้านจังหวัดยโสธร ทำให้มีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรของอำเภอเขื่องในมานานเกือบ 1 สัปดาห์ แต่ยังไม่กระทบถึงบ้านเรือน ส่วนแม่น้ำโขงใน 5 อำเภอ ก็ล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่เกษตรกรรม เส้นทางคมนาคม และบ้านเรือนเป็นบางส่วน ขณะที่แม่น้ำมูลยังมีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเกือบ 2 เมตร และต้นน้ำยังมีน้ำไม่มาก แม่น้ำมูลจึงยังไม่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนเหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ จังหวัดได้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ เพราะเป็นพื้นที่ปลายน้ำรับน้ำจากแม่น้ำทั้ง 3 สาย และปีนี้มีน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่เร็วกว่าปกติ จากอิทธิพลของพายุ ทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา

สำหรับระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี เช้าวันนี้ (14 ส.ค.) อยู่ที่ 4.97 เมตร ลดลงจากเมื่อวาน 2 เซนติเมตร ห่างจากตลิ่ง 2.03 เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากความจุของลำน้ำ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย