ปภ. 3 ส.ค.- กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ประสานจังหวัดริมแม่น้ำโขง-พื้นที่ท้ายเขื่อน เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาสถานที่ปลอดภัยรองรับการอพยพของประชาชน ขอประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายจังหวัดบริเวณริมแม่น้ำโขง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งอยู่ในเกณฑ์มาก จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำ อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ และพื้นที่การเกษตร
“ได้ประสานให้จังหวัดที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำโขงเฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น โดยติดตั้งระบบสูบน้ำ บริหารการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้น และระบายน้ำออกตามสภาพพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และจัดหาสถานที่ปลอดภัยรองรับการอพยพประชาชน” นายชยพล กล่าว
นายชยพล กล่าวว่า สำหรับจังหวัดที่มีการพร่องหรือระบายน้ำ และจังหวัดท้ายน้ำ ให้นายอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ภัยในพื้นที่ ผ่านวิทยุกระจายเสียง เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร แจ้งข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ
นายชยพล กล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่ท้ายเขื่อน ให้เฝ้าระวังและติดตามการบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด หากพบว่าปริมาณน้ำที่ระบายมีปริมาณมากและระดับน้ำสูง ให้ชี้แจงประชาชนทราบถึงความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงความจำเป็นในการต้องอพยพประชาชนไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย
“นอกจากนี้ ให้จังหวัดประสานการปฏิบัติกับหน่วยทหารในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานและเครือข่ายอาสาสมัครทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด โดยเตรียมความพร้อมด้านสรรพกำลัง เครื่องจักรกลสาธารณภัย และจัดชุดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุ และให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ตลอด 24ชม. โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามข้อมูลข่าวสารและปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด” นายชยพล กล่าว.- สำนักข่าวไทย