พระนครศรีอยุธยา 5 ต.ค. – 3 รัฐมนตรีเกษตรฯ ติดตามสถานการณ์น้ำ ห่วงพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาซึ่งต้องรับน้ำเพิ่มขึ้น จากการที่กรมชลประทานจำเป็นต้องปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายอิทธิ ศิริลัทธยากร และนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์น้ำพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยมีนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน รายงานถึงแนวทางบริหารจัดการเพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่ภาคกลาง
ทั้งนี้ กรมชลประทานขออนุญาตคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราเกินกว่า 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมออกหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา 11 จังหวัด เพื่อแจ้งเตือนประชาชนแล้ว
เช้าวันนี้ (5 ต.ค. 67) ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสถานี C.2 นครสวรรค์ที่ 2,367 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่วนปริมาณน้ำแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี ที่ไหลมาสมทบอยู่ที่อัตรา 160 ลบ.ม.ต่อวินาที การที่ปริมาณน้ำที่ จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มสูงขึ้นจึงมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและน้ำท่าจากฝนที่ตกในพื้นที่ จากเช้านี้ระบายที่ 1,999 ลบ.ม.ต่แวินาที ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ทยอยปรับเป็นอัตรา 2,050 ลบ.ม.ต่อวินาที ในเวลา 15.00 น. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง หากปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมามีไม่มาก อาจปรับเพิ่มไม่ถึง 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที
นางนฤมล กล่าวว่า น้ำเหนือที่ไหลลงมาจะไม่กระทบต่อ กทม. และปริมณฑล ยกเว้นมีฝนตกในพื้นที่ ซึ่งกรมชลประทานประสานกับ กทม. อย่างใกล้ชิดในการใช้สถานีสูบน้ำฝั่งตะวันออกพร่องน้ำออกจาก กทม. แล้ว.-512 - สำนักข่าวไทย